เกี่ยวกับเรา
รักษาปัญหาเส้นผม
ปลูกผม DHI เทคนิคถนอมกราฟ อัตราติดสูงสุด
FUE with Implanter หรือเทคนิคที่เรียกว่า Direct Hair Implantation (DHI) ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับวงการปลูกผมในปัจจุบัน การปลูกผมเทคนิค DHI หรือ DHI Hair Transplant คือการย้ายเซลล์รากผมถาวรจากบริเวณหลังศีรษะ (Donor area) ไปยังบริเวณที่ไม่มีเส้นผม (Recipient Area) เหมือนกับขั้นตอนการปลูกแบบ FUE และ FUT แต่มีการพัฒนาเทคนิคการใส่กราฟผมกลับเข้าไปในผิวหนัง โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาพิเศษที่เรียกว่า ‘Implanter‘ ในการปลูกผมกลับเข้าร่างกายแทนการใช้คีมหนีบทางการแพทย์ (Metal Forceps) ซึ่ง DHI Implanter คือเทคนิคการใช้ปากกานำปลูก Implanter สำหรับการฝังรากผมเข้าสู่หนังศีรษะโดยตรง ซึ่งสามารถนำมาใช้ร่วมกับเทคนิคการปลูกผมทั้งแบบ FUE และ FUT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ Bangkok Hair Clinic เราเป็นศูนย์ศัลยกรรมปลูกผมแบบ DHI ในกรุงเทพฯ ที่ราคาคุ้มค่าน่าพึงพอใจ โดยเลือกใช้ Lion Implanter จากประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถลดความบอบช้ำของรากผม (Mechanical Trauma) และช่วยทะนุถนอมรากผมอันเปราะบางได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับที่คลินิกชั้นนำทั่วโลกนิยมใช้ในการปลูกผม DHI นอกจากนี้ แผลที่เกิดจากการใช้ Lion Implanter ยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับการทำ FUE ธรรมดา
ขั้นตอนวิธีการปลูกผม FUE with Implanter (DHI)
ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE with Implanter (DHI)
- การปลูกผม DHI ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของเซลล์รากผมถึง 10-15%
- ได้ผลลัพธ์ที่ดูกลมกลืน ทำให้ผมดูแน่นหนายิ่งขึ้น
- ระยะเวลาปลูกผมสั้นลง
- ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการปลูกและหลังการปลูก
- สามารถควบคุมทิศทางและความลึกของการฝังตัวของเซลล์รากผมได้อย่างแม่นยำ
- การปลูกผมเทคนิค DHI เป็นวิธีที่ใช้เวลาพักฟื้นสั้นและไม่เป็นที่สังเกต
Lion Implanter คืออะไร?
Lion Implanter จัดเป็น DHI Implanter ซึ่งก็คืออุปกรณ์พิเศษที่ช่วยให้การปลูกผมสามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยปากกา Lion Implanter ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดินสอ เพื่อช่วยในการปลูกผม ปลูกเครา รวมไปถึงการปลูกขนในบริเวณอื่นโดยตรง อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้แก้ไขการปลูกผมที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ได้ด้วย
การปลูกผมแบบ FUE with Implanter (DHI) เหมาะกับใคร ?
การปลูกผมเทคนิค DHI หรือ FUE with Implanter คือวิธีที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีความเสี่ยงที่จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่สมบูรณ์จากการปลูกผมถาวร ซึ่งหากมีข้อสงสัยว่า ผู้เข้ารับการรักษาควรปลูกผมด้วยวิธีใด โปรดปรึกษาแพทย์ของทางคลินิกโดยตรง แต่โดยทั่วไปแล้ว ลักษณะของผู้ที่อาจมีความเสี่ยงและควรใช้เทคนิคการปลูกผม DHI ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุมาก
- ผู้มีโรคผิวหนังศีรษะ หรือสภาพผิวแพ้ง่าย
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่ไม่เคยทานยารักษาเส้นผมมาก่อน
- ผู้มีโรคประจำตัว
- ผู้เคยปลูกผมถาวรมาก่อนแล้ว
การทำ FUE with Implanter (DHI) ใช้เวลานานเท่าใด ?
ระยะเวลาในการปลูกผมแบบ FUE with Implanter (DHI) จะขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาเส้นผมของผู้รับการรักษา จำนวนกราฟที่ต้องใช้ ขนาดพื้นที่บริเวณหลังศีรษะ และความยากง่ายในแต่ละเคส โดยปกติแพทย์จะใช้เวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมง เพราะต้องรักษาความเร็วในการปลูกกราฟผมลงบนตำแหน่งที่ต้องการจึงต้องรักษาเวลาให้ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพ
การทำ FUE with Implanter (DHI) อันตรายหรือไม่และเจ็บปวดเพียงใด ?
การปลูกผมด้วยวิธีการ FUE with Implanter หรือ DHI จะช่วยทะนุถนอมรากผมอันเปราะบางได้เป็นอย่างดี และสามารถปลูกได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับการใช้ Forceps ซึ่งในระหว่างการปลูกผมจะมีความรู้สึกเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ เนื่องจากแผลที่เกิดจากการเจาะพื้นที่ปลูกมีขนาดเล็กมาก คือเพียงแค่ 0.6 มม. – 0.7 มม. เท่านั้น ทำให้ผู้รับการรักษาฟื้นตัวจากการบอบช้ำได้อย่างรวดเร็ว และแทบไม่เคยพบการติดเชื้อจากการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ การปลูกผมแบบ DHI จึงเป็นวิธีที่ไม่ต้องพักฟื้นนานและมีราคาที่คุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
FAQ
Q: ผลลัพธ์ของการปลูกผมถาวรจะเริ่มเห็นได้ภายในกี่วัน ?
A: โดยทั่วไป ทั้งการปลูกผม FUE, DHI (FUE with Implanter), FUT จะมีเส้นผมที่เริ่มขึ้นบนหนังศีรษะจนสังเกตได้ภายในระยะเวลาประมาณ 6-9 เดือนภายหลังการปลูกผม หลังจากนั้น ถ้าหมั่นบำรุง เส้นผมที่งอกขึ้นมาก็สามารถอยู่ได้อย่างถาวร
Q: ผลลัพธ์ความหนาแน่นของเส้นผมที่ปลูกจะเป็นอย่างไร ?
A: สำหรับบริการปลูกผมถาวรของเรา ความหนาแน่นของเส้นผมที่ปลูกจะอยู่ที่ระหว่าง 30-50 กราฟต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งความหนาแน่นขนาดนี้ เกิดจากการใช้เทคนิค Micrograft ในทุกเคสการรักษา
