



แพทย์ปลูกผมถาวร
ประวัติและการศึกษา
นพ. จิรายุ เจตชยานนท์ หรือ “หมอเชิ๊ต” เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมถาวรที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปีในการรักษาภาวะผมร่วง ศีรษะล้าน และฟื้นฟูแนวเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ
- สำเร็จการศึกษาจาก Shrewsbury International School (2012) โดยเป็นหัวหน้าบ้านและรองประธานนักเรียน
- จบการศึกษา แพทยศาสตรบัณฑิต จาก University of Birmingham, UK (2017)
- ได้รับใบอนุญาตเป็น แพทย์ปฏิบัติการในประเทศอังกฤษ จาก General Medical Council (GMC)
- เป็นสมาชิกสมทบของ The International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS) (2020)
- เป็นสมาชิกของ Asian Association of Hair Restoration Surgeon (AAHRS) (2024)
- เป็นสมาชิกนานาชาติของ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
- อบรมเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงกับ Dr. Tayfun Oguzoglu (MD, FISHRS, ABHRS, IAHRS) ณ ประเทศตุรกี
- ผ่านการฝึกอบรม Long Hair Transplant Training ที่ TLJ Hair Center (2024)
- เข้าร่วมอบรม The International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS) ครั้งที่ 27 และ 29 ในปี 2019 และ 2021
แรงบันดาลใจในการเป็นแพทย์
“ใคร ๆ ก็เป็นแพทย์ได้” แต่การเป็นแพทย์ที่ดีต้องอาศัยความอดทน ความมุ่งมั่น และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ โดยสำหรับหมอเชิ๊ต การเรียนแพทย์ไม่ใช่แค่การสอบผ่านหรือได้รับใบประกอบวิชาชีพ แต่เป็นการ เอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง หมอเชิ๊ตเลือกเส้นทางนี้เพราะต้องการพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่าสามารถก้าวข้ามทุกอุปสรรค และใช้ความรู้ที่ได้รับมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้อื่นให้ดีขึ้น

ทำไมต้องเลือกเฉพาะทางด้านการปลูกผม ?
ในสายงานแพทย์มีหลายสาขาที่สำคัญ แต่สำหรับหมอเชิ๊ต การเลือกศึกษาด้านเส้นผม ไม่ใช่เพราะเทรนด์หรือโอกาสทางอาชีพ แต่เป็นเพราะเส้นผมมีความสำคัญมากกว่าที่หลายคนคิด
- เส้นผมเป็นสัญลักษณ์ของบุคลิกภาพและความมั่นใจ
- ปัญหาผมร่วงส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- การมีบุคลิกภาพที่ดีสามารถสร้างโอกาสในชีวิตได้
ดังนั้น หมอเชิ๊ตจึงต้องการใช้ความรู้ที่มี เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
แนวทางและเป้าหมายในการรักษา
- ฟื้นฟูเส้นผมเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ
การออกแบบแนวผมให้ดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับเส้นผมเดิม - การรักษาเฉพาะบุคคลด้วยเทคนิคที่ทันสมัย
วิเคราะห์โครงสร้างเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสม - มาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพสูงสุด
ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงเลือกใช้เทคนิคที่ลดความเสี่ยงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด - การดูแลหลังการรักษาและส่งเสริมสุขภาพผมในระยะยาว
ติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด และให้คำปรึกษาด้านการดูแลเส้นผม
เคสที่ภาคภูมิใจที่สุด
1. Revision Transplant (ปลูกผมครั้งที่สอง) – คุณจิรายุ
เคสนี้เป็นการปลูกผมครั้งที่สอง เนื่องจากการปลูกครั้งแรกไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด การปลูกซ้ำมีความซับซ้อนสูง เพราะมีข้อจำกัดด้านจำนวนกราฟต์และรอยแผลเป็น แต่หลังการรักษา เส้นผมขึ้นเต็มแนว ส่งผลให้ผู้ป่วยซึ่งมีอาชีพเป็นอินฟลูเอนเซอร์ สามารถถ่ายรูปได้อย่างมั่นใจ
2. Craniotomy Scar (แผลเป็นผ่ากะโหลก) – คุณร่มธรรม
ผู้ป่วยมีแผลเป็นจากการผ่าตัดกะโหลกศีรษะ ซึ่งเป็นเคสที่ยากมาก เพราะการปลูกผมบนเนื้อเยื่อแผลเป็นมีความเสี่ยงสูง แต่ด้วยเทคนิคเฉพาะทางของทีมแพทย์ ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด เส้นผมยึดติดแน่น และสามารถปกปิดแผลเป็นได้อย่างสมบูรณ์
3. Mega Session (ปลูกจำนวนมาก) – Mr. Jacob
ผู้ป่วยมีภาวะศีรษะล้านระดับ Norwood Scale 6 ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเป็นระดับที่ยากต่อการปลูกผม อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์สามารถปลูกถ่ายเส้นผมได้มากถึง 4,200 กราฟต์ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่พึงพอใจ หลังจาก 9 เดือน ผู้ป่วยเดินทางกลับมาติดตามผล พร้อมนำของฝากจาก Slovenia มาให้ทีมงาน
4. Older Patient (ผู้ป่วยอายุมาก) – Mr. Jeremy
ผู้ป่วยชาวต่างชาติที่แม้มีอายุค่อนข้างมาก แต่ยังต้องการปลูกผมเพื่อเสริมความมั่นใจ แม้ว่าเส้นผมบริเวณ Donor Area จะอ่อนแอลงตามวัย แต่การออกแบบแนวผมที่แม่นยำและการใช้เทคนิคเฉพาะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติ ผู้ป่วยพึงพอใจมากจนกลับมาปลูกผมครั้งที่สองกับทีมเรา

วิสัยทัศน์ในการทำงาน
“เรามุ่งมั่นพัฒนาเทคนิคและนวัตกรรมด้านการปลูกผมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การรักษาที่มีคุณภาพ พร้อมกับยึดมั่นในมาตรฐานทางการแพทย์ระดับสากล เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง”
เป้าหมายของ Bangkok Hair Clinic คือการเป็นคลินิกที่ให้บริการปลูกผมที่ดีที่สุด และได้มาตรฐานสูงสุด เพื่อมอบผลลัพธ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนไข้ได้อย่างแท้จริง