เช็กก่อนตัดสินใจ! ผู้หญิงผมบาง ผมร่วงควรปลูกผมถาวรแบบไหนดี?
หากผมบาง หรือมีปัญหาผมบางและผมร่วงกวนใจอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกปลูกผมถาวรแบบใดถึงเหมาะกับผู้หญิง จะปลูกผมแบบ FUE, DHI หรือใช้สเต็มเซลล์กันแน่ ที่นี่มีคำตอบ
หากผมบาง หรือมีปัญหาผมบางและผมร่วงกวนใจอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกปลูกผมถาวรแบบใดถึงเหมาะกับผู้หญิง จะปลูกผมแบบ FUE, DHI หรือใช้สเต็มเซลล์กันแน่ ที่นี่มีคำตอบ
ถึงจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาผมบาง หรือปัญหาศีรษะล้านเองก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้หญิงได้เหมือนกับผู้ชาย ซึ่งหากไม่ดูแลตั้งแต่แรก ปัญหาผมบางอาจลุกลามและกลายเป็นปัญหาศีรษะล้านที่ยากจะแก้ไข ดังนั้น หากผู้หญิงคนไหนที่กำลังประสบกับปัญหาผมบาง หรือมีผมร่วงเป็นหย่อม ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือเริ่มรู้สึกว่ามีปริมาณผมลดน้อยลงจากอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะใช้เทคนิคปลูกผมถาวรแบบใดที่เหมาะกับความต้องการ ความรุนแรงของอาการผมร่วง ผมบาง ตลอดจนเงื่อนไขอื่น ๆ อย่างสภาพกรอบของรูปหน้า หรือยังไม่รู้ว่าทางการแพทย์นั้นมีเทคนิคการปลูกผมถาวรสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะหรือไม่ หากใครกำลังสงสัยเช่นนี้อยู่ วันนี้ Bangkok Hair Clinic มีคำตอบ
แต่ก่อนที่จะไปดูว่าวิธีการปลูกผมถาวรแบบไหนดี Bangkok Hair Clinic อยากชวนคุณผู้หญิงทุกคนมาทำความเข้าใจถึงปัญหาผมบางและศีรษะล้านในผู้หญิงก่อนว่าเป็นอย่างไร และแตกต่างจากของผู้ชายอย่างไรบ้าง
โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาผมบางและศีรษะล้านนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงจากหลายสาเหตุ อาทิ โรคร้ายต่าง ๆ อย่างเช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคโลหิตจาง โรคเบาหวาน หรืออาจเกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ สภาวะเครียดจนถอนผมตัวเอง การเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนการใช้ยาบางประเภท ซึ่งนอกเหนือจากสาเหตุเหล่านี้แล้ว ‘พันธุกรรม’ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวแปรหลักที่ทำให้เกิดภาวะผมบางและศีรษะล้านด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ชายแล้ว สภาวะผมบางและศีรษะล้านนั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้มากถึง 7 บริเวณ มีความรุนแรง 7 ระดับ โดยจะเริ่มที่แนวผมด้านหน้าและจะค่อย ๆ ลึกเข้าไปคล้ายกับลักษณะของง่าม หรือหากอายุมากขึ้น ผมบริเวณส่วนขวัญ หรือบริเวณตรงกลางศีรษะ และบริเวณด้านหลังก็อาจจะค่อย ๆ บางและล้านได้เช่นกัน
แต่สำหรับผู้หญิงนั้น โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาผมบางและศีรษะล้านมักเกิดขึ้นที่บริเวณกลางศีรษะ หรือที่บริเวณแนวผมด้านหน้าจนเป็นปัญหา ‘หัวเถิก’ อีกทั้งผู้หญิงหลาย ๆ คนยังมีปัญหาผมร่วงร่วมด้วย ซึ่งหากปล่อยไว้ ปัญหาผมบางนี้ก็จะขยายวงกว้างไปด้านข้างเรื่อย ๆ และทำให้ศีรษะล้านขึ้น เห็นหนังศีรษะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
รู้หรือไม่?
ถึงจะมีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านมากน้อยแค่ไหน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผมบริเวณท้ายทอย และขมับทั้ง 2 ข้างนั้นมักจะมีผมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ดังนั้น หากศีรษะล้านจนเริ่มหมดความมั่นใจก็สามารถนำผมจากทั้ง 2 ด้านมาปลูกผมถาวรได้เหมือนกัน
ปัญหาผมบางและศีรษะล้านของทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั้นมีวิธีรักษาที่คล้ายคลึงกัน โดยแพทย์จะทำการเลือกวิธีรักษาโดยพิจารณาจากความรุนแรงที่พบ โดยวิธีการรักษาที่สามารถใช้กับผมของผู้หญิงได้จะมีทั้งหมด 4 วิธี ซึ่งประกอบไปด้วย
การปลูกผมแบบ FUE หรือ Follicular Unit Excision จะเป็นการปลูกผมที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาผมบางที่แนวผมด้านหน้า ผู้ที่ต้องการอยากมีแนวผมใหม่ ๆ และผู้ที่มีปัญหาผมบางมาก ๆ ซึ่งในอดีตการปลูกผมแบบ FUE นั้นจะต้องโกนผม แต่ในปัจจุบันนี้ การปลูกผมด้วยวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องโกนผมอีกต่อไป อีกทั้งยังไม่มีแผลผ่าตัดยาวที่อาจเสี่ยงเป็นแผลเป็นอีกด้วย ดังนั้น คุณผู้หญิงจึงมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ และความสวยงามหลังทำ
สำหรับขั้นตอนการปลูกผมด้วยวิธีนี้ แพทย์จะทำการเจาะกราฟต์ หรือ กอผมยังบริเวณหลังศีรษะ หรือบริเวณที่มีผมที่สามารถนำมาใช้ได้ที่เรียกว่า Donor Area ออกมา จากนั้นแพทย์จึงใช้เข็มเจาะรูที่บริเวณที่ต้องการปลูก และใช้คีมปลายแหลมที่เรียกว่า Forceps มาคีบผมที่มีเซลล์รากผมไปปักยังบริเวณที่เจาะรูไว้นั่นเอง
การใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาผมบางนั้นเป็นวิธีการปลูกผมถาวรใหม่ล่าสุดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้วิธีอื่น ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะแก้ปัญหาผมบาง และศีรษะล้านได้แทบจะทุกกรณีแล้ว การปลูกผมแบบนี้ยังให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เป็นธรรมชาติ และไม่มีรอยแผลเป็นให้กังวลอีกด้วย
สำหรับการรักษาด้วยวิธีนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการคัดเลือกกราฟต์ และค้นหาเซลล์ผลที่มีความแข็งแรงมากที่สุดเพียง 8 – 12 รากจาก Donor Area เหมือนการปลูกผมแบบ FUE จากนั้นจะนำเซลล์ผมที่ได้นี้ไปสกัดสเต็มเซลล์บริสุทธิ์ และเมื่อได้สารที่ต้องการ ในขั้นตอนถัดไปแพทย์จะทำการฉีดสเต็มเซลล์เหล่านี้กลับเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหาผมบางและศีรษะล้าน ซึ่งหลังจากฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว สเต็มเซลล์เหล่านี้จะออกฤทธิ์เพื่อไปยับยั้งฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดผมบางและศีรษะล้าน รวมถึงช่วยกระตุ้นรูขุมขนบนหนังศีรษะให้สร้างเส้นผมใหม่ด้วย
นอกเหนือจากการปลูกแบบ FUE และการใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาผมบางแล้ว ผู้หญิงยังสามารถใช้วิธีการปลูกผมถาวรแบบ DHI ได้อีกด้วย โดยการปลูกผมวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาผมบางที่ยังไม่รุนแรงมาก หรือผู้หญิงที่มีเริ่มมีปัญหาศีรษะล้านในวงแคบ ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้แนวผมด้านหน้าดูหนาขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ยังใช้ได้กับบริเวณกลางศีรษะอีกด้วย
ซึ่งขั้นตอนการปลูกผมด้วยวิธีนี้จะมีความคล้ายคลึงกับการปลูกแบบ FUE โดยแพทย์จะทำการเจาะนำเอากราฟต์จาก Donor Area ที่หลังศีรษะ หรือบริเวณที่ใช้ได้ จากนั้นจึงใช้เครื่องมือที่เรียกว่า DHI Implanter มาปักไปยังบริเวณที่ต้องการจะปลูกผม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้แพทย์ปักและปลูกผมพร้อมกันได้ ไม่ต้องเสียเวลามาเลี้ยงเซลล์เพื่อปลูกใหม่ โดยวิธีการปลูกผมถาวรนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะปลูกได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น การปลูกผมแบบ DHI ยังใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก ๆ คุณผู้หญิงบางคนเมื่อปลูกเสร็จก็สามารถไปทำงานและทำกิจวัตรประจำวันต่อได้แทบจะทันที
การปลูกผมถาวรแบบ PRP หรือ Platelet Rich Plasma เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาผมร่วง และผมบางได้แล้ว PRP ยังถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง และไม่มีปัญหารอยแผลให้ต้องกังวลใจอีกด้วย
โดยวิธีการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้นั้นจะมีความคล้ายคลึงกับการใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาผมบาง แต่แทนที่จะใช้เซลล์เส้นผม แพทย์จะสกัดสเต็มเซลล์จากเกล็ดเลือดมาเพื่อบำรุงเส้นผมแทน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็จะช่วยให้คุณผู้หญิงได้เส้นผมที่แข็งแรงขึ้น และลดปัญหาผมบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณผู้หญิงคนไหนยังไม่แน่ใจว่าควรจะปลูกผมแบบไหนเพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ล่ะก็ Bangkok Hair Clinic ขอสรุปความแตกต่างของแต่ละวิธีให้ ดังนี้
ความแตกต่าง | FUE | STEMCELL | DHI | PRP |
---|---|---|---|---|
เหมาะกับปัญหาแบบไหน | ปัญหาผมบางและศีรษะล้านปานกลางถึงมาก | ปัญหาผมบางและศีรษะล้านเล็กน้อยถึงปานกลาง | ||
ขั้นตอนการปลูก | เจาะกราฟต์ผม และใช้คีบปากแหลมปักที่บริเวณที่ต้องการปลูก | เจาะกราฟต์ผม 8 – 12 เส้นเพื่อนำเซลล์ผมไปสกัดสเต็มเซลล์ จากนั้นจึงนำกลับไปฉีดที่บริเวณที่ต้องการปลูกผม | เจาะกราฟต์ผม และใช้เครื่องมือ DHI Implanter ปักและปลูกไปพร้อมกัน | สกัดสเต็มเซลล์จากเกล็ดเลือด และนำกลับเข้าไปฉีดยังบริเวณที่มีปัญหาผมบาง หรือศีรษะล้าน |
ข้อควรระวัง | ให้ผลลัพธ์ดี แต่ใช้เวลารักษาและพักฟื้นนาน | ควรกลับมาทำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง | พักฟื้นไม่นาน แต่อาจให้ผลลัพธ์ได้เฉพาะเคสที่มีปัญหาน้อย | ไม่เหมาะสำหรับปัญหาผมบางมาก อีกทั้งยังต้องกลับมาทำบ่อย ๆ |
จะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้ว ผู้หญิงเองก็มีปัญหาผมบางไม่น้อยไปกว่าผู้ชาย แต่อย่างไรก็ดี ยังมีวิธีการรักษาที่คล้ายคลึง และให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับของผู้ชาย ซึ่งหากคุณผู้หญิงคนไหนต้องการปลูกผมถาวรอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ต้องการกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาผมบาง หรือปัญหาผมบาง ผมร่วง และศีรษะล้าน Bangkok Hair Clinic คลินิกปลูกผมชั้นนำใจกลางทองหล่อพร้อมแล้วที่จะให้บริการคุณผู้หญิงทุกคนอย่างเต็มความสามารถเพื่อคืนความมั่นใจ และความอ่อนเยาว์ในแบบที่ต้องการ ด้วยแพทย์ประสบการณ์สูง และเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมการันตีผลลัพธ์และความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคน
มีปัญหาเส้นผม ปรึกษาแพทย์ฟรีที่ Bangkok Hair Clinic
E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ