fb pixel
Line facebook instagram linkedin

วันอังคาร - อาทิตย์ 10:00 - 19:00
ติดต่อ 064 196 3539

ประเภทของหวีมีอะไรบ้าง? เลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผม

หวีเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญกับการดูแลเส้นผม บทความนี้จะพาไปรู้กันว่า ประเภทของหวีมีกี่แบบ ? แล้วเราควรเลือกใช้หวีอย่างไรให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของแต่ละคน

หวีเป็นอุปกรณ์ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี และใช้งานกันเป็นประจำในชีวิตประจำวัน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า หวีมีอยู่หลายประเภท และมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกใช้หวีให้ถูกประเภทจะช่วยให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดี และง่ายต่อการจัดทรงผม ในบทความนี้จะพาไปรู้กันว่า ประเภทของหวีมีกี่แบบ ? แล้วเราควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของแต่ละคน !

ประเภทของหวีมีอะไรบ้าง เหมาะกับผมแบบไหน ?

หวีเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อการดูแลเส้นผม แต่ในการเลือกใช้งาน จำเป็นจะต้องเลือกให้ถูกต้อง เพื่อการดูแลเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม

1. หวีซี่ห่าง

หวีซี่ห่างเหมาะกับผู้ที่มีผมยาว ผมหนา หรือผมพันกันง่าย เนื่องจากมีช่องว่างที่กว้างจะช่วยให้สางผมได้สะดวก ไม่ทำให้ผมพันกันหนักจนเกิดการดึงรั้งและขาด พร้อมกันนั้น ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ดัดผมลอน เนื่องจากจะช่วยรักษาลอนผมให้คงทน ไม่ทำให้ลอนแตกหรือคลาย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้กระจายแชมพู ครีมนวด หรือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่าง ๆ ให้ทั่วทั้งเส้นผมขณะสระผมได้อีกด้วย

2. หวีไม้

หวีไม้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมชี้ฟู เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมยุ่งเหยิง หวีไม้จึงช่วยจัดแต่งทรงผมให้เรียบเนียนได้ โดยทั่วไป หวีไม้มักผลิตจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สน ไม้เชอรี่ เป็นต้น หวีไม้คุณภาพสูงจะเป็นงานแฮนด์เมดและขัดมันเพื่อความสวยงาม ซึ่งนอกจากจะใช้สำหรับหวีผมแล้ว ยังสามารถใช้นวดหนังศีรษะระหว่างการหวี พร้อมช่วยบำรุงและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

3. หวีซี่ถี่

หวีซี่ถี่มีช่องว่างระหว่างซี่แคบมาก เหมาะสำหรับใช้กับผมเส้นบางและสั้น เนื่องจากสามารถใช้สางและจัดแต่งทรงผมได้โดยไม่ดึงรั้งเส้นผมจนขาดหลุดร่วง การใช้หวีซี่ถี่จะช่วยเกล้าผมให้เรียบเนียน ช่างผมนิยมใช้หวีชนิดนี้แต่งหน้าผมและจัดแต่งทรงผมต่าง ๆ เช่น แบ่งช่อผม แสกกลาง แสกข้าง หรือซิกแซกผม เรียกได้ว่า เป็นหวีที่สามารถควบคุมเส้นผมและสร้างรายละเอียดของทรงผมได้อย่างประณีต

4. หวีปลายแหลมหรือหวีหาง

หวีประเภทนี้จะมีลักษณะปลายแหลมยาว ทำให้สามารถใช้แบ่งช่อผม แสกกลาง หรือแสกข้างได้อย่างสะดวก ในขณะที่ตัวหวีจะมีซี่ถี่ เหมาะสำหรับการจัดแต่งทรงผมให้เรียบเนียน สามารถใช้ปาดเก็บลูกผม หรือยีผมเพื่อสร้างวอลลุ่ม จึงเหมาะอย่างยิ่งในการทำผมสำหรับออกงานพิเศษต่าง ๆ

5. หวีแปรงทรงกลม

หวีแปรงทรงกลม เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่มีผมสั้นและผมยาว สามารถใช้ร่วมกับไดร์เป่าผม เพื่อสร้างวอลลุ่มและลอนผมให้ดูสวยงาม เป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การใช้หวีที่มีลักษณะแปรงทรงกลมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมพันกันหรือถูกดึงจนเสียหาย

6. หวีแปรงพื้นยาง

หวีแปรงพื้นยาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผมหยิกติดหนังศีรษะ เนื่องจากพื้นยางของหวีแปรงชนิดนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมชี้ฟูและพันกัน ช่วยให้การแปรงผมเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่ทำให้เส้นผมเสียหาย และไม่เกิดความระคายเคืองกับหนังศีรษะ

7. หวีแปรงขนหมูป่า

หวีแปรงขนหมูป่า เป็นประเภทของหวีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพเส้นผมดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมมากขึ้น เนื่องจากขนหมูป่าจะช่วยกระตุ้นให้น้ำมันบนหนังศีรษะออกมาเคลือบเส้นผม ทำให้ผมดูเปล่งประกายและเงางาม

แต่ก่อนการใช้งานครั้งแรก ควรนำหวีแปรงขนหมูป่าไปแช่น้ำอุ่นประมาณ 20 นาที เพื่อให้ขนหมูอ่อนนุ่มลง จากนั้นจึงนำมาแปรงลงบนเส้นผมขณะผมแห้งสนิท เพราะหากใช้กับผมเปียก ขนหมูจะดูดซับน้ำเข้าไปในตัว อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับและไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว

8. หวีไนลอนผสมขนหมูป่า

หวีประเภทนี้จะประกอบไปด้วย ขนไนลอนผสมกับขนหมูป่า ทำให้สามารถหวีผ่านเส้นผมหยิกหยักศกได้อย่างราบรื่น โดยไม่ทำให้เส้นผมเสียหรือแตกปลายง่าย

9. หวีไฟฟ้า

หวีไฟฟ้า เหมาะกับการนำไปใช้กับทุกประเภทของเส้นผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมตรงที่ต้องการจัดแต่งทรงผมให้เรียบเนียนในวันที่รีบเร่ง เนื่องจากหวีไฟฟ้าจะมาพร้อมแปรงไฟฟ้าสำหรับกระตุ้นเส้นผม ทำให้สามารถหวีผมได้ลึกถึงโคนผม นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาผมชี้ฟู เนื่องจากไอออนลบที่ปล่อยออกมาจากหวีจะช่วยยึดเกาะเส้นผม ควบคุมให้ผมลงตัวและเรียบเนียนขึ้น ทำให้ทรงผมดูเป็นระเบียบตลอดวัน

เทคนิคการใช้หวี ใช้ถูกวิธีช่วยลดผมร่วง ผมบาง และผมขาดได้ !

  • หวีผมอย่างถูกวิธี : หลีกเลี่ยงการหวีผมขณะผมยังเปียกอยู่ ควรหวีผมเมื่อผมแห้งสนิท โดยเริ่มหวีจากโคนผมไปยังปลายผมโดยไม่ใช้แรงมากเกินไป นอกจากนี้ ควรหวีผมวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อกระจายน้ำมันบนหนังศีรษะอย่างทั่วถึง
  • เลือกใช้หวีที่เหมาะสม : การเลือกประเภทของหวีตามสภาพเส้นผม จะช่วยลดการหลุดร่วง ผมขาด ซึ่งนำไปสู่อาการผมบางได้
  • ทำความสะอาดหวีสม่ำเสมอ : ควรทำความสะอาดหวีเป็นประจำ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและเศษผมที่ค้างอยู่ในซอกหวี อีกทั้งไม่ควรใช้หวีร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคและสิ่งสกปรกระหว่างกัน
  • ดูแลสุขภาพผม : ควรดูแลสุขภาพผมด้วยวิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำผมด้วยความร้อนจัดเกินไป และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม เพื่อบำรุงและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม
การใช้ประเภทของหวีที่เหมาะกับสภาพผม จะช่วยให้ผมเงางาม ดูมีน้ำหนัก

จะเห็นได้ว่าประเภทของหวีแต่ละชนิด จะเหมาะกับสภาพผมที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าขณะหวีผม เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้น จนผมดูบางทำให้ขาดความมั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Bangkok Hair Clinic คลินิกปลูกผมถาวรและรักษาผมบางระดับพรีเมียม เราพร้อมวางแผนการรักษาอย่างมืออาชีพ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน สามารถติดต่อได้ทาง Line: @bangkokhairclinic (มี @ ด้วย) หรือโทร. 02 118 7386, 064 196 3539 หรือส่งอีเมลมาที่ bangkokhairclinic@gmail.com

ข้อมูลอ้างอิง

  1. หวีแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร!! เหมาะกับสภาพเส้นผมประเภทไหน. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567. จาก https://www.central.co.th/
  2. เลือกหวียังไงให้เหมาะกับการใช้งาน !. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567. จาก https://www.wongnai.com/
  3. มารู้จักและเลือกใช้ หวีและแปรง ให้เหมาะกับเส้นผม เพื่อผมสวยสุขภาพดี. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567. จาก https://www.allthingshair.com/th-th/
  4. หวีแบบไหนดี ที่เหมาะกับเส้นผมทั้ง 7 ประเภท ใช้ให้ถูกช่วยให้ผมมีสุขภาพดี. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567. จาก https://women.kapook.com/
lineline messagemessage callcall