ประเภทของหวี
หวีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือหวี และ แปรง ทำหน้าที่เหมือนกันคือจัดแต่งทรงผมและลดอาการผมพันกัน หวีและแปรงก็จะแบ่งประเภทย่อยออกไปอีกดังนี้
· หวีซี่ห่าง (WIDE-TOOTH COMB) ใช้สำหรับสางผมที่พันกัน
· หวีไม้ (WOODEN HAIR COMB) ใช้สางผมเช่นเดียวกับหวีซี่ห่างและหวีไม้จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้นกับเส้นผมอีกด้วย
· หวีปลายแหลมหรือหวีหาง (TAIL COMB) หวีลักษณะนี้หลาย ๆ บ้านคงจะมีติดไว้เพราะนอกจากจะเอาไว้สางผมแล้วปลายของหวียังสามารถช่วยแบ่งผมหรือจัดทรงผมได้อีกด้วยครับ
ประเภทของแปรง
· แปรงสี่เหลียมผืนผ้า (VENT HAIR BRUSH) เป็นแปรงที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากเพราะแปรงลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมเหมาะสำหรับคนที่มีผมเส้นเล็กและขาดง่าย
· แปรงไม้พาย (PADDLE HAIR BRUSH) แปรงแบบนี้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่เหมาะกับคนที่มีผมค่อนข้างยาว แปรงลักษณะนี้สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะได้และยังสามารถช่วยให้คนที่มีผมหยักโศกตรงขึ้นได้ด้วยครับ
· แปรงวงรีครึ่งวง (CUSHION HAIR BRUSH) แปรงลักษณะนี้เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด เพราะบริเวณฐานของขนแปรงค่อนข้างนุ่มและปลายของแปรงนั้นมีตุ่มกลมสามารถนวดศีรษะให้ผ่อนคลายได้ครับ
· แปรงยีผม (TEASING BRUSH) การใช้งานเหมือนชื่อเลยครับเอาไว้ใช้ยีผมมักจะใช้ในร้านทำผมมากกว่าจะมีติดบ้านครับ
จะเป็นไรไหม? ถ้าใช้หวีไม่ตรงกับประเภทสภาพของเส้นผม
ต้องบอกเลยว่าหวีมีผลกับเส้นผมอย่างแน่นอนครับเพราะเนื่องจากหวีแต่ละประเภทนั้นถูกออกแบบมาให้ตรงกับสภาพของเส้นผมแต่ละแบบและถ้าเราใช้หวีหรือแปรงที่ผิดประเภทนั้นอาจทำให้เส้นผมของเราขาดง่ายขึ้นว่าเดิมนั่นเอง
หวีมีหลากหลายประเภทสภาพของเส้นผมของเราด้วยเช่นกันฉะนั้นการลงทุนกับหวีหรือเลือกใช้หวีที่เหมาะกับเส้นผมของเราจะช่วยให้สุขภาพเส้นผมของเราดียิ่งขึ้นเพราะการที่เราใช้หวีที่ไม่เหมาะกับสภาพของเส้นผมถือเป็นการทำร้ายเส้นผมอีกอย่างหนึ่ง ทั้งการหวีผมที่แรงเกินไปยิ่งทำให้เส้นผมพันกันยิ่งกว่าเดิมหากใครไม่อยากทำร้ายเส้นผมซ้ำ ๆ ทุก ๆ วันแนะนำให้เลือกหวีที่เหมาะกับสภาพผมของตัวเองครัยจะช่วยให้การหวีผมของคุณในแต่ละวันง่ายขึ้น