นวัตกรรมใหม่! จบปัญหาผมร่วง ผมบางด้วยการปลูกผมเทคนิค DHI

ปัญหาผมร่วง ผมบาง ที่มีปัจจัยมาจากพันธุกรรม หรือพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม ส่งผลให้เส้นผมของเราหลุดร่วงเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากปล่อยไว้ปัญหาผมร่วงอาจนำไปสู่ปัญหาศีรษะล้านจนอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะในปัจจุบันวงการแพทย์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ! นั่นก็คือการปลูกผมเทคนิค DHI ที่ปลูกครั้งเดียวจบ! มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการรักษา เพราะเส้นผมที่ได้จะขึ้นเรียงตัวสวย ดกดำ และดูเป็นธรรมชาติ

รู้จักกกับการปลูกผมเทคนิค DHI

การปลูกผมด้วยเทคนิค DHI หรือที่เรียกว่า Direct Hair Implantation เป็นนวัตกรรมการปลูกเส้นผมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยประสิทธิภาพที่เห็นผลลัพธ์ที่ดี โดยจะใช้เทคนิคการย้ายเซลล์รากผมถาวรจากบริเวณหลังศีรษะไปยังบริเวณที่ไม่มีเส้นผม ซึ่งเป็นรูปแบบการปลูกผมที่คล้ายกับเทคนิค FUE แต่มีข้อพิเศษตรงที่ขั้นตอนการใส่กราฟผมกลับเข้าไปในผิวหนัง โดยการใช้ DHI Implanter แทนการใช้คีมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือแบบดั้งเดิมที่ใช้สำหรับการย้ายเซลล์ผม ซึ่ง Implanter Pen นั้นจะมีประสิทธิภาพในการช่วยลดความบอบช้ำของรากผม รวมถึงสามารถช่วยถนอมรากผมที่เปราะบาง ที่สำคัญยังเป็นเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการขึ้นของเส้นผมได้ดีอีกด้วย

ข้อแตกต่างระหว่างปลูกผมเทคนิค DHI Vs FUE และ FUT

ในปัจจุบัน เทคนิคที่นิยมใช้ปลูกผมถาวรมีอยู่หลายรูปแบบ แต่การปลูกผมแบบ DHI เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากการใช้เทคโนโลยี Implanter Pen ในขั้นตอนการใส่กราฟท์ผม จึงทำให้แผลมีขนาดที่เล็กมาก (กว้าง 0.8-1 มม.) อีกทั้งยังเป็นการผ่าตัดปลูกผมที่ไม่เจ็บหรือมีความเจ็บน้อย หากเทียบกับการปลูกผมในรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการปลูกผมแบบดั้งเดิมอย่างวิธี FUE และ FUT ที่มักจะนิยมใช้คีมขนาดเล็กในการปลูกเซลล์กลับเข้าไปในผิวหนัง โดยในการปลูกผมแบบ FUE จะมีแผลเป็นจุดสีขาวขนาดเล็กกระจายอยู่บริเวณด้านหลังศีรษะ ในขณะที่ FUT จะมีแผลเป็นรูปทรงยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตรซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังศีรษะ

และถึงแม้การปลูกผมเทคนิค DHI จะมีขั้นตอนการปลูกผมแบบเดียวกับ FUE และ FUT แต่อาจกล่าวได้ว่า การปลูกผมแบบ DHI จะให้ประสิทธิภาพการปลูกผมได้ดีกว่าเพราะเป็นการใช้เครื่องมืออย่างปากกา Implanter นั่นเอง

การปลูกผมเทคนิค DHI เหมาะสำหรับใคร?

สำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือมีอาการผมร่วงรุนแรงจนทำให้ศีรษะล้าน ซึ่งอาจเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของอายุที่เพิ่มมากขึ้น พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผมร่วงหรือศีรษะล้านอย่างการสูบบุหรี่ รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพ อย่างผู้ที่มีโรคผิวหนังศีรษะหรือมีสภาพผิวแพ้ง่ายและมีโรคประจำตัว รวมถึงผู้ที่เคยปลูกผมถาวรมาก่อนด้วยเช่นกัน ซึ่งหากใครที่มีปัญหาเหล่านี้ก็สามารถเข้ารับการปลูกผมเทคนิค DHI จากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง หรือจะไปปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำในการรักษาก็ได้เช่นกัน

ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค DHI ด้วย Implanter Pen

ปากกาปลูกผม Implanter Pen เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ทำให้แพทย์ใช้เวลาในการปลูกผมน้อยกว่าแบบคีมขนาดเล็ก และสามารถกำหนดทิศทางการปลูกผมได้ดี ทั้งความลึกที่สม่ำเสมอ และมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญการใช้ Implanter Pen จะช่วยถนอมเซลล์รากผมที่จะนำมาปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เวลาปลูกมีความเจ็บปวดน้อย และคนไข้สามารถฟื้นจากการปลูกผมได้เร็วขึ้น

ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังการปลูกผมเทคนิค DHI

• หลีกเลี่ยงการดัดผม หรือทำสี หลังการปลูกผมอย่างน้อย 1 เดือน
• หลีกเลี่ยงการเช็ด ถู แกะ หรือเกาบริเวณที่ปลูกผมเป็นเวลา 2 สัปดาห์
• งดการก้มศีรษะให้ต่ำกว่าระดับเอวเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะอาจจะทำให้เกิดเลือดออกได้
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดการสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 สัปดาห์
• แนะนำให้นอนหงาย หรือหนุนหมอนให้หัวสูง เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ปลูกผม
• แนะนำให้กินอาหารให้ครบ 5 หมู่และเน้นกลุ่มอาหารที่มีโปรตีนสูง

นวัตกรรมการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ที่ Bangkok Hair Clinic

Bangkok Hair Clinic ศูนย์ศัลยกรรมปลูกผมถาวรระดับพรีเมียม มีความเชี่ยวชาญในการปลูก ดูแลรักษาและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยเฉพาะการปลูกผมเทคนิค DHI โดยใช้ DHI Implanter เป็นอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยในการปลูกผม ที่สามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดของเซลล์รากผมได้ถึง 10-15% ช่วยลดความบอบช้ำของรากผม รวมถึงถนอมรากผมที่เปราะบางได้เป็นอย่างดี มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพ ได้ผมดก เส้นหนาสวย ดูเป็นธรรมชาติ อัตราการรอดของเส้นผมสูง คนไข้ฟื้นตัวได้เร็ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน เราพร้อมให้คำปรึกษา

มีปัญหาเส้นผม ปรึกษาแพทย์ฟรีที่ Bangkok Hair Clinic 

E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ