เช็ก 5 พฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจต้องไปรักษาผมร่วงผมบาง!

ปัญหาผมร่วงเยอะจนผมบาง อาจจะไม่ใช่เพราะโชคชะตาและพันธุกรรมเสมอไป แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมของเราที่ทำให้ผมร่วงไปแบบไม่รู้ตัว ดังนั้น หากว่าเราไม่อยากจะศีรษะล้าน ควรเลิก 5 พฤติกรรมดังต่อไปนี้!! เพราะยิ่งทำ ผมก็ยิ่งบางลงไปเรื่อย ๆ สุดท้ายต้องไปรักษาผมบาง ผมร่วงให้วุ่นวายกันไปอีก

หยุด 5 พฤติกรรมผิด ๆ ต้นเหตุผมบาง หลุดร่วง

หากไม่อยากมานั่งรักษาผมร่วงผมบางในภายหลัง ต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผมและหนังศีรษะเหล่านี้โดยด่วน

1. มัดผมหรือติดกิ๊บแบบรวบตึง

หากคุณเป็นคนที่มีผมยาว ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย หากปล่อยผมไว้ และนั่งทำงานไปเรื่อย ๆ หรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ย่อมต้องประสบกับปัญหาผมบังหน้า หรือระต้นคอ ทำให้รู้สึกรำคาญ จนต้องหาทางแก้ด้วยการมัดรวบแบบแน่น ๆ หรือติดกิ๊บตึง ๆ นาน ๆ ซึ่งวิธีนี้ ในช่วงแรกอาจจะไม่มีผลอะไรมาก แต่หากว่าทำเป็นประจำก็อาจส่งผลทำให้ผมร่วงและบางลงได้ นอกจากนี้ การใส่หมวกนาน ๆ ตลอดทั้งวัน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมบางลง จนต้องไปรักษาผมร่วง แก้ผมบางได้เช่นกัน

การรัดผมตึงและการใส่หมวก เป็นสาเหตุทำให้ผมบางลง เนื่องจากเส้นผมของเราต้องการช่องว่างในการระบายความอับชื้นบริเวณหนังศีรษะ การรวบผมตึงหรือการใส่หมวก ทำให้ผมและหนังศีรษะของเราระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร จนทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะอย่างรังแค และทำให้ผมขาดหลุดร่วงตามมา

2. ไม่ดูแลรักษาความสะอาด

ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมยิ่งร้อนมากเป็นพิเศษ และหากอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ยังต้องเผชิญกับฝุ่น ควัน และมลพิษต่าง ๆ ทำให้หนังศีรษะและผมกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค ถ้าละเลยไม่ทำความสะอาดก็จะทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะอุดตัน และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมขาดหลุดร่วง จนต้องไปรักษาผมร่วงในที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไป เพราะนั่นจะทำให้ผมร่วงบางมากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน ทั้งนี้ การดูแลรักษาความสะอาดผมที่เหมาะสม คือควรสระผมวันเว้นวันก็จะดีที่สุด 

3. ใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผมมากเกินไป

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ความร้อนจากไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผมไฟฟ้า เครื่องหนีบผม รวมถึงสารเคมีจากการทำสีผม การฟอกสี การยืด และการดัด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมเสีย แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากจะทำให้ผมเสียแล้ว ยังทำให้ผมบางและร่วงได้อีกต่างหาก  

เนื่องจากความร้อนและสารเคมีต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ทำลายโปรตีนและน้ำมันตามธรรมชาติที่เป็นส่วนประกอบของเส้นผม ส่งผลให้ผมแห้งเสีย เปราะ และขาดได้ง่าย อีกทั้งการใช้สารเคมีบ่อย ๆ จะทำให้ผมอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ จนผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย

วิธีแก้ผมร่วงที่ทำตามได้ง่าย ๆ คือ ก่อนที่จะไดร์หรือหนีบผม ควรจะใช้ครีมหรือเซรั่มชโลมลงบนเส้นผมก่อน ส่วนการทำสี ฟอก ยืด หรือดัด ควรจะเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เดือนต่อการทำในแต่ละครั้ง

4. เครียด พักผ่อนไม่พอ การลดความอ้วนแบบหักโหม

รู้หรือไม่ว่าความเครียดก็ทำให้ผมบางลงได้ อย่างที่มีคนชอบพูดว่า “เครียดจนหัวล้าน” เพราะความเครียดทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผมขาดหลุดร่วงตามมา นอกจากนี้ บางคนเครียดแล้วมีพฤติกรรมชอบดึงผมเล่น ยิ่งทำให้ผมบางและขาดหลุดร่วงได้มากขึ้น จนนำไปสู่การต้องรักษาผมร่วงผมบางอีกด้วย

นอกจากนี้ การลดน้ำหนักแบบผิด ๆ อย่างการอดอาหารก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ผมร่วง เนื่องจากร่างกายได้รับสารอาหารไปบำรุงเส้นผมไม่เพียงพอ จนทำให้ผู้ที่มีปัญหาต้องไปรักษาผมบางเพื่อเพิ่มความมั่นใจ

5. สระผมแบบผิด ๆ

ถึงแม้ว่าจะสระผมแบบวันเว้นวันตามที่บอก แต่หากว่าเราสระผมแบบผิด ๆ ก็อาจจะทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ซึ่งวิธีการสระผมที่มักทำให้เกิดปัญหาต่อสภาพเส้นผมและหนังศีรษะก็คือ การสระผมด้วยน้ำอุ่น นั่นเป็นเพราะว่าอุณหภูมิของน้ำที่สูง จะทำให้ผมเปราะและขาดหลุดร่วงได้ง่าย

นอกจากนี้ การหวีผมขณะที่ผมเปียกก็เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นเดียวกัน เพราะช่วงที่ผมเปียกเป็นเวลาที่ผมอ่อนแอ การหวีผมที่พันกันแรง ๆ อาจจะทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่ายกว่าเดิม ควรจะใช้นิ้วมือสางเบา ๆ จะดีที่สุด

สุดท้าย การนอนทั้ง ๆ ที่ผมเปียกหรือยังไม่แห้งดี ยังเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดรังแคและเชื้อราบนหนังศีรษะ จนทำให้รากผมของเราอ่อนแอ นำไปสู่ปัญหาผมหลุดร่วง จนต้องรักษาผมร่วง ผมบางนั่นเอง

เคล็ด(ไม่)ลับการบำรุงผม เมื่อเกิดปัญหาผมบาง ผมร่วง

หากว่าใครรู้สึกว่า ตนเองมีภาวะผมขาดหลุดร่วง และมีปัญหาผมบางไปแล้ว ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเรามีวิธีบำรุงผมให้ฟื้นคืนชีวิตมาฝากกัน

1. ใช้แชมพูสูตรดูแลผมขาดหลุดร่วง เนื่องจากมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงรากผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง ที่สำคัญควรเลือกแชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย พาราเบน และฟอร์มาลดีไฮด์
2. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดความเครียดและหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้า ไม่ปล่อยให้ผมเปียกนาน ๆ โดยเฉพาะการนอนหลับทั้ง ๆ ที่ผมเปียก รวมถึงไม่รัดผมแน่นหรือทำให้หนังศีรษะอับชื้น ขาดอากาศหายใจ
3. กินอาหารและวิตามินเสริมเพื่อบำรุงเส้นผม เช่น ไบโอติน ซิงค์ วิตามินเอ บีรวม ซี อี ธาตุเหล็ก และซีลีเนียม ซึ่งมีมากในไข่แดง ถั่ว นม และโฮลเกรน 
4. ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาผมร่วงผมบาง โดยแพทย์จะวินิจฉัยและประเมินว่าควรจะกินยา ฉีดเซลล์ หรือปลูกผมถาวร

อย่างที่ได้บอกกันไปแล้วว่า ถ้าหากไม่อยากมีปัญหาผมบางจนต้องรักษา ห้ามทำ 5 พฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้น แต่สำหรับใครรู้ตัวช้า เริ่มมีปัญหาผมหลุดร่วง ผมบาง และต้องการที่จะรักษาผมบาง ผมร่วง หรือปรึกษาปัญหาศีรษะล้าน กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถมาปรึกษาได้ฟรีที่ Bangkok Hair Clinic E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ ได้เลย