LGBTQ ควรรักษาผมบางด้วยวิธีไหน ใช้ยาปลูกผมหรือปลูกผมถาวร?
เรื่อง “ผม” และ “ขน” เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็แคร์ เพราะเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความมั่นใจในสไตล์ที่เป็นคุณ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแต่ละคนมีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน บางคนผมบาง อยากให้ผมขึ้นจะได้ไว้ผมยาว แต่ไม่ชอบให้ขนตามร่างกายขึ้นด้วย หรือบางคนอาจจะอยากได้ทั้งผมและขนเพื่อลุคที่ดูคมเข้มแต่ร่างกายยังผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ไม่พอ วันนี้เราจึงจะพาไปไขข้อข้องใจว่า ถ้าหากคนข้ามเพศ รวมไปถึง LGBTQ ที่ประสบปัญหาผมร่วง หัวล้าน หัวเถิก ควรรับมือด้วยวิธีไหนจึงจะได้ผมที่ดกดำ แต่กระทบต่อขนและฮอร์โมนน้อยที่สุด ระหว่างการรับประทานยาหรือการปลูกผมถาวร ใครอยากรู้ ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันได้เลย
อาการผมร่วง ผมบาง มีที่มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งเกิดจากความเครียด การทำผม หรือการใช้ยาบางชนิด สามารถแก้ไขได้โดยรักษาตามอาการหรือหยุดใช้ยา แต่โดยส่วนมากคุณผู้ชายจะมีสาเหตุการหลุดร่วงมาจากพันธุกรรม เนื่องจากมีระดับฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) สูงเกินไป จึงทำให้รากเส้นผมย่อขนาดตัวลงจากภาวะ miniaturisation โดยเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีขนาดเล็กลง และหลุดร่วงง่าย โดยบริเวณแนวผมด้านหน้าจะค่อยๆร่นถอยเป็นรูปตัว M และบริเวณกลางศีรษะ หรือกลางกระหม่อมบางลงจนเห็นหนังศีรษะ หรือเรียกว่าหัวล้านนั่นเอง คุณอาจต้องพึ่งยาปลูกผมหรือการปลูกผมถาวร ซึ่งก่อนจะตัดสินใจเลือกวิธีรักษา ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และดูความรุนแรงของอาการแต่ละบุคคลที่แท้จริงก่อน จะได้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยที่สุด
ในปัจจุบันมียาปลูกผมที่อนุมัติให้ใช้ในทางการแพทย์ 2 ชนิดด้วยกัน โดยทั้งสองตัวจะส่งผลโดยตรงต่อฮอร์โมน เพื่อช่วยออกฤทธิ์กระตุ้นการงอกของเส้นผม ดังนี้
เป็นยารับประทาน โดยในขนาด 5 mg จะใช้สำหรับรักษาโรคต่อมลูกหมากโต แต่ในการรักษาโรคผมร่วงตามกรรมพันธุ์จะใช้เป็นขนาด 1mg เพื่อออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5 Alpha Reductase ซึ่งจะทำให้ระดับฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ลดลง จึงช่วยกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ และป้องกันอาการผมร่วงได้
เป็นยาที่มีรูปแบบทานและทา โดยสามามารถใช้ควบคู่กันได้ มีฤทธิ์โดยการช่วยขยายหลอดเลือดให้ออกซิเจนไปเลี้ยงรากผม จึงกระตุ้นให้ผมขึ้นใหม่
ความจริงทุกคนควรปรึกษาแพทย์ก่อน ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่สำหรับ LGBTQ อย่าลืมคำนึงถึงผลข้างเคียงเรื่องการขึ้นของขนในบริเวณที่ไม่ต้องการด้วย เช่น เครา ไรหนวด
หากใครพิจารณาแล้วว่า การใช้ยาปลูกผมอาจยังไม่ใช่โซลูชันที่ต้องการ เพราะไม่อยากรับมือกับผลข้างเคียง และยังกลัวว่าหากหยุดยาจะทำให้กลับมาหัวเถิกหรือผมร่วงอีกครั้ง ในปัจจุบันก็มีเทคนิคการปลูกผมถาวรที่พัฒนาไปมากจนสามารถปลูกผมขึ้นเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
การปลูกผมมีอยู่ด้วยกันหลายเทคนิค แนะนำให้คุณศึกษารายละเอียดคร่าว ๆ และไปปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะคุณที่สุด
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น Bangkok Hair Clinic ได้ทำตารางเปรียบเทียบมาให้แล้ว ดังนี้
ยาปลูกผม | ปลูกผมถาวร | |
ข้อดี |
|
|
ข้อเสีย |
|
|
เหมาะกับใคร |
|
|
เรื่องของการเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจนั้นไม่มีข้อจำกัดทางเพศ และทุกคนสามารถปลูกผมเพื่อเติมเสน่ห์ให้กับกรอบหน้าของตัวเองได้ เพียงแต่ต้องเลือกเทคนิคที่เหมาะสมและศึกษาผลข้างเคียงให้ชัดเจน
มีปัญหาเส้นผม ปรึกษาแพทย์ฟรีที่ Bangkok Hair Clinic
E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ