รู้จักอาการและแนวทางรักษาผมบางกลางหัว

อาการผมบางกลางหัว สามารถพบทั้งในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งการศึกษาถึงสาเหตุและแนวทางการรักษา จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ คลายกังวลที่มีต่อปัญหานี้ไปได้

ปัญหาหัวล้านตรงกลางศีรษะ หรือภาวะผมบางกลางหัว เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งล้วนส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต แต่ในปัจจุบันมีแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อช่วยให้เส้นผมกลับมาขึ้นใหม่ได้

ทำความรู้จักปัญหาผมตรงกลางบาง

อย่างที่บอกไปว่า ภาวะหัวล้านตรงกลาง หรือผมบางกลางหัว เป็นหนึ่งในรูปแบบของปัญหาผมร่วงที่พบได้มากทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยที่ผมบริเวณกลางหัวจะเริ่มร่วงและมีผมขึ้นใหม่น้อย หรือไม่ขึ้นเลย ในระยะแรกเริ่ม บริเวณด้านหน้าจะยังมีผมอยู่ จากนั้นจะค่อย ๆ ขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการรักษา บริเวณที่ผมร่วงจะกว้างขึ้นจนสังเกตเห็นได้ง่าย ทั้งจากด้านหน้าและด้านบน ทำให้ผมที่เหลืออยู่ดูบางและไม่แน่นอย่างที่เคย ซึ่งนอกจากจะทำให้ขาดความมั่นใจแล้ว ยังอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์อีกด้วย ซึ่งลักษณะผมบางกลางหัวของผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน ดังนี้

• ผู้หญิง มักจะเริ่มจากการที่เส้นผมบริเวณกลางหัวบางลงแต่ยังคงมีเส้นผมปกคลุม ไม่ได้ถึงขั้นหัวล้านแบบชัดเจน โดยเริ่มจากบริเวณส่วนกลางของศีรษะไปทางด้านข้าง จนผมบริเวณกลางหัวบางลงไปเรื่อย ๆ แต่จะยังคงมีเส้นผมเล็ก ๆ กระจายตัวอยู่
• ผู้ชาย มักพัฒนาเร็วและชัดเจนกว่าอาการผมบางกลางหัวในผู้หญิง โดยจะเริ่มจากผมบางในบริเวณแนวหน้าผากและลามไปถึงกลางศีรษะ จนเห็นเป็นจุดล้านชัดเจน ลักษณะนี้มักเรียกว่า “Male Pattern Baldness” ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูปตัว “M” ที่ศีรษะด้านหน้าและบริเวณกลางศีรษะค่อย ๆ บางลง

สาเหตุของอาการผมตรงกลางบาง

1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผมร่วง โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น หรือในช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น การตั้งครรภ์ การเข้าสู่วัยทอง หรือการใช้ยาคุมกำเนิด ซึ่งอาจทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง จนส่งผลกระทบต่อรากผมและการงอกใหม่ของเส้นผม โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม รวมถึงทำให้ระยะเจริญเติบโตของเส้นผมยาวนานขึ้น แต่หากฮอร์โมนเอสโตรเจนเกิดลดน้อยลงก็จะทำให้เซลล์ผมอ่อนแอ และเป็นสาเหตุทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้

2. อายุที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากการใช้ยาที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนแล้ว การที่อายุมากขึ้นและเข้าสู่ช่วงวัยทอง ก็ส่งผลต่อฮอร์โมนและทำให้การเจริญเติบโตของเส้นผมลดลงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง หรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงและบางบริเวณกลางหัวได้

3. โรคที่เกิดจากกรรมพันธุ์

พันธุกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการผมบางกลางหัวได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยหากมีประวัติโรคผมบางจากกรรมพันธุ์ เช่น ภาวะ Androgenetic Alopecia ที่ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะผมบาง หรือหัวล้านตรงกลางหัวได้มากกว่าคนอื่น

4. การขาดสารอาหารบางอย่าง

นอกจากสาเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างพันธุกรรม หรือความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแล้ว อาการผมบางกลางหัวก็อาจมีสาเหตุมาจากการขาดสารอาหารบางชนิดได้ด้วย โดยเฉพาะสารอาหารที่มีผลต่อการสร้างและเพิ่มความแข็งแรงให้กับเซลล์เส้นผม อย่างโปรตีน หรือไบโอติน

5. ความเครียด

สภาพจิตใจและความเครียดเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผมตรงกลางบางได้ เนื่องจากความเครียดจะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ รวมถึงกระบวนการสร้างฮอร์โมน ที่อาจส่งผลทำให้หนังศีรษะขาดความสมดุลและเส้นผมร่วงในที่สุด อีกทั้งการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอที่เกิดจากความเครียด ยังจะทำให้การฟื้นฟูรากผมและการเจริญเติบโตของเส้นผมเป็นไปได้ช้า ส่งผลให้ผมร่วงง่ายและบางลง

6. สารเคมี

อีกหนึ่งสาเหตุของผมร่วงและผมตรงกลางบาง คือการถูกทำร้ายโดยสารเคมี ซึ่งอาจเกิดได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์เส้นผมที่มีสารเคมีเข้มข้น หรือแรงเกินไป จนทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณหนังศีรษะและทำลายสารอาหารสำคัญที่มีหน้าที่เคลือบเส้นผม ส่งผลให้เกิดอาการคันและมีรังแค จนหนังศีรษะอักเสบ ทำให้เส้นผมหลุดร่วงและบางลงในที่สุด

แนวทางการรักษาปัญหาผมบางกลางหัว

แม้ว่าบางสาเหตุของอาการผมบางกลางหัวในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็มีแนวทางการรักษาอยู่หลายวิธี ทั้งแบบง่ายที่ดูแลได้ด้วยตนเองและวิธีทางการแพทย์ ดังนี้

1. งดยาที่ส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมน

สิ่งแรกที่ต้องทำหากไม่ต้องการให้อาการผมบางกลางหัวรุนแรงมากขึ้น คือการตรวจสอบยาที่ทานอยู่เป็นประจำ ว่ามีผลต่อฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเส้นผมหรือไม่ เช่น ยาที่อาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเกิดความแปรปรวน ซึ่งอาจนำไปสู่การหลุดร่วงของเส้นผม หากพบว่ามียาที่ทำให้เกิดอาการผมร่วง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาตัวยาอื่นทดแทน

2. ทานอาหาร หรืออาหารเสริมที่ช่วยส่งเสริมฮอร์โมนที่ดีต่อเส้นผม

นอกจากการหยุดยาที่อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนแล้ว การทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงก็ช่วยบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ด้วย เช่น น้ำมะพร้าว ลูกพรุน งา เมล็ดแฟลกซ์ เต้าหู้ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนการสร้างฮอร์โมนและบำรุงรากผมให้แข็งแรง

3. การปลูกผมถาวร

หากต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน การปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคอย่าง FUE หรือ DHI ก็ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงและต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ผมเริ่มร่วงและบางในระยะแรก ๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับผู้ที่ผมร่วงหนักและล้านทั่วศีรษะ เพราะจำเป็นต้องนำเซลล์เส้นผมจากบริเวณอื่นมาใช้ในการปลูกผม

4. วิธีการฟื้นฟูรากผมโดยไม่ต้องปลูกผม

สำหรับใครที่ไม่สะดวกเรื่องการพักฟื้น กลัวเจ็บ หรือไม่สามารถใช้วิธีปลูกผมถาวรอย่างเทคนิค FUE หรือ DHI ได้ สามารถเลือกใช้วิธีฟื้นฟูรากผมด้วยวิธีเหล่านี้แทน

1. ฉีดบำรุงเส้นผม PRP
2. นวัตกรรมฉีดเซลล์บำบัดรักษาผมร่วง (Cell Plus Therapy)
3. ฉายเลเซอร์บำรุงผม (LLLT)

ได้รู้กันไปแล้วว่า อาการผมบางกลางหัวมีสาเหตุมาจากอะไร หากใครที่ต้องการรักษาด้วยวิธีปลูกผมถาวร หรือเลือกฟื้นฟูรากผมด้วยการฉีดบำรุงเส้นผม ฉายแสงบำรุง สามารถปรึกษากับแพทย์ชำนาญการของเราได้ที่ Bangkok Hair Clinic คลินิกปลูกผมและรักษาผมบางระดับพรีเมียม ที่พร้อมให้บริการและวางแผนการรักษาอย่างมืออาชีพ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่

• Line: @bangkokhairclinic (มี @ นำหน้า)
• เบอร์โทรศัพท์: 02 118 7386, 064 196 3539
• อีเมล: bangkokhairclinic@gmail.com

คำถามที่พบบ่อย

Q: ผมตรงกลางบางรักษาด้วยวิธีไหนดี ?
A: สามารถรักษาได้หลายวิธี เช่น การใช้ยาที่แพทย์แนะนำอย่าง Minoxidil การรักษาด้วยเลเซอร์ การฉีด PRP หรือการปลูกผม ทั้งนี้การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของปัญหาผมบาง จึงควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ชำนาญก่อนทำการรักษา

Q: สามารถใช้วิธีธรรมชาติในการแก้ปัญหาผมตรงกลางบางได้ไหม ?
A: การดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดความเครียด และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมจากธรรมชาติ สามารถช่วยลดการหลุดร่วงของผมได้ในบางกรณี อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล

Q: ผมบางกลางหัวเกิดขึ้นเฉพาะในผู้ชายใช่หรือไม่ ?
A: ไม่ใช่ ปัญหาผมบางกลางหัวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม รวมถึงอายุที่เพิ่มขึ้น

Q: เมื่อไรควรไปปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปัญหาผมบางกลางหัว ?
A: หากผมบางกลางหัวเริ่มรุนแรง หรือมีผลกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม