ผมร่วงในเด็กเกิดจากอะไร ? เข้าใจสาเหตุและวิธีการป้องกัน

รู้หรือไม่ ? ว่าอาการผมร่วงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กวัยเรียน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงจะแตกต่างกันไป การทำความเข้าใจถึงเรื่องนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะของลูก ๆ ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงหาแนวทางการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้ผมหลุดร่วงรุนแรงมากยิ่งขึ้น

สาเหตุของผมร่วงในเด็กเกิดจากอะไรบ้าง ?

1. ภาวะทั่วไปในเด็กแรกเกิด

เด็กแรกเกิดหลายคนมีอาการผมร่วง โดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนหลังคลอด หรือที่เรียกว่าระยะทีโลเจน (Telogen) ซึ่งเส้นผมเก่าที่มีมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์จะหลุดออกจนหมด เพื่อให้ผมเส้นใหม่ได้งอกขึ้นมา นับเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตของเส้นผม

2. อาการแพ้

อาการแพ้ที่ว่านี้เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมสำหรับเด็ก ที่อาจมีส่วนผสมทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ เพราะถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จะอ่อนโยนเพียงใด แต่ก็มีสิทธิที่เด็ก ๆ จะเกิดอาการแพ้ได้ทั้งสิ้น ดังนั้นหากจะใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดใดก็ตาม ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ของเด็กได้

3. ความเครียด

เด็กก็สามารถเกิดภาวะเครียดได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ โดยอาการเครียดของเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ความเครียดที่เกิดจากโรงเรียน ปัญหาด้านชีวิตความเป็นอยู่ในครอบครัว หรืออาจเกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งกันของคนในครอบครัว ซึ่งพวกเขามักจะแสดงออกให้เห็นผ่านภาษากาย เช่น การดึงเส้นผม เพื่อบรรเทาอาการเครียดของตัวเอง

4. โรคผิวหนัง

เนื่องจากอากาศร้อนและความชื้นของเมืองไทย อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังที่ส่งผลให้เกิดอาการผมหลุดร่วง อย่างโรคเชื้อราบนหนังศีรษะได้ง่าย โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่ได้มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้มากนัก จึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง ซึ่งเราสามารถดูแลพวกเขาได้ด้วยวิธีเหล่านี้

• เวลานอนไม่ควรให้ศีรษะของเด็กเปียกชื้น เพราะอาจจะเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้
• หลังจากเด็กกลับมาจากโรงเรียนหรือการทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรทำความสะอาดร่างกายและเส้นผมเสมอ เพราะอากาศที่ร้อนอาจทำให้หนังศีรษะชื้นได้เช่นเดียวกัน

5. ขาดสารอาหาร

การไม่ได้รับสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ย่อมส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กผมร่วง ดังนั้นถ้าหากสงสัยว่าเด็กผมร่วงขาดวิตามินอะไร หรือจำเป็นต้องได้รับสารอาหารประเภทใดเพิ่มเติมบ้าง วิตามินเหล่านี้เป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ควรได้รับอย่างสม่ำเสมอ

• โปรตีน เป็นองค์ประกอบหลักของเส้นผม หากเด็กได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ เส้นผมอาจอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย
• ธาตุเหล็ก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตไปยังรากผม การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้เส้นผมบางและร่วงง่าย
• ไบโอติน เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม หากขาดอาจทำให้เปราะบางและขาดหลุดร่วง
• วิตามินดี ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและลดการขาดหลุดร่วง

วิธีการรักษาผมร่วงในเด็ก

สำหรับการป้องกันและรักษาอาการเด็กผมร่วงสามารถทำได้ ดังต่อไปนี้

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมสารเคมี

ขณะที่เส้นผมและหนังศีรษะเปียกน้ำ จะเป็นช่วงเวลาที่เส้นผมอ่อนแอที่สุด และถ้ายิ่งต้องสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารเคมี เส้นผมและหนังศีรษะก็จะยิ่งถูกทำร้ายไปมากกว่าเดิม ดังนั้นแนะนำว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่ผสมสารเคมีหรือสารอันตรายใด ๆ ซึ่งจะดีต่อเส้นผมและหนังศีรษะมากที่สุด

2. ดูแลสุขภาพจิตใจให้แข็งแรง

สำหรับเด็กที่ประสบปัญหากับภาวะผมร่วงจากอาการเครียด แนะนำให้ผู้ปกครองหมั่นคอยสังเกตพฤติกรรมของเด็ก และหากิจกรรมทำร่วมกันเพื่อคลายความเครียดของพวกเขา รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมการดึงผม เพื่อลดการเกิดผมขาดหลุดร่วง

3. เสริมสร้างโภชนาการอย่างเหมาะสม

โภชนาการที่เหมาะสมมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของเส้นผม ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี ลดการขาดหลุดร่วง และเพิ่มความเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ โดยสารอาหารที่แนะนำ คือ

• โปรตีน เป็นส่วนประกอบหลักของเคราติน ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของเส้นผม อาหารที่แนะนำคือ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น ไก่ ไข่ไก่ ปลา เต้าหู้ และถั่วชนิดต่าง ๆ รวมถึงนมและผลิตภัณฑ์จากนม
• ธาตุเหล็ก ช่วยให้เส้นผมเจริญเติบโตแข็งแรง แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า เนื้อแดง ตับ ถั่วเปลือกแข็ง และอาหารทะเล เช่น หอยนางรม
• ไบโอติน ช่วยเสริมโครงสร้างของเคราติน ทำให้เส้นผมแข็งแรง แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ ไข่แดง ถั่วอัลมอนด์ วอลนัต และผลไม้ เช่น อะโวคาโด กล้วย
• โอเมก้า-3 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ ทำให้เส้นผมเงางาม แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ ปลาแซลมอน ปลาแมกเคอเรล อะโวคาโด และวอลนัต
• วิตามินเอ ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมไม่แห้งเสีย แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ แคร์รอต มันเทศ ผักโขม บรอกโคลี และมะม่วง
• วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เส้นผมแข็งแรง แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ ส้ม ฝรั่ง กีวี สตรอว์เบอร์รี พริกหวานแดง และสับปะรด
• วิตามินอี ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดี แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด บรอกโคลี และน้ำมันรำข้าว
• สังกะสี ช่วยซ่อมแซมเซลล์เส้นผม และป้องกันอาการหนังศีรษะลอก แหล่งสารอาหารที่แนะนำคือ อาหารทะเล เช่น หอยนางรม กุ้ง รวมถึงเนื้อแดง เมล็ดฟักทอง และถั่วเปลือกแข็ง

4. พบแพทย์

เมื่อเกิดอาการผิดปกติของผิวหนังบริเวณหนังศีรษะควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ เนื่องจากอาการที่พบอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น โรคต่าง ๆ จึงต้องให้แพทย์ทำการวินิจฉัย ว่าเกิดจากสาเหตุใด จะได้รักษาอย่างตรงจุดและถูกวิธี โดยอาการเด็กผมร่วงที่ควรรีบพาไปพบแพทย์ ได้แก่

• หากมีรอยแดง คัน หรือเป็นสะเก็ด ควรพาไปพบแพทย์ผิวหนัง
• หากเด็กมีพฤติกรรมดึงผมบ่อย เนื่องจากความเครียด ควรพูดคุยและให้คำแนะนำที่เหมาะสม รวมถึงขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาเด็ก

การเข้าใจถึงภาวะเด็กผมร่วง และหาทางป้องกัน รวมถึงรักษาอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็ก ๆ มีสุขภาพผมที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาผมขาดหลุดร่วงเมื่อโตขึ้น แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่มีปัญหาผมขาดหลุดร่วง อาจใช้แนวทางการรักษาเช่นเดียวกับเด็ก ๆ ได้ แต่ถ้าผมร่วงมากจนขาดความมั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ คลินิกรักษาผมร่วง Bangkok Hair Clinic เราพร้อมให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อช่วยสร้างแนวผมใหม่และฟื้นฟูเส้นผมของคุณให้แน่นหนาขึ้น สนใจปรึกษาปัญหาเส้นผมกับเรา หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line : @bangkokhairclinic
โทร : 02 118 7386, 064 196 3539
อีเมล : info.bangkokhairclinic@gmail.com

ข้อมูลอ้างอิง

1. เด็กผมร่วง เกิดจากอะไร และวิธีรับมือที่ควรรู้. สืบค้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 จาก https://hellokhunmor.com/พ่อแม่เลี้ยงลูก/สุขภาพเด็ก/เด็กผมร่วง-สาเหตุ-วิธีรับมือ/