รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปลูกผม FUE ในที่เดียว
สำหรับใครที่กำลังกังวลใจกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน และอยากทวงคืนความดกดำให้กลับคืนมา โดยสนใจแนวทางการปลูกผม FUE ทว่า ยังมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับวิธีการนี้ ต้องไม่พลาดกับบทความนี้ เพราะเราจะมาอธิบายถึงวิธีการปลูกผมแบบ FUE ว่าคืออะไรให้เข้าใจง่ายขึ้น ผ่านการตอบคำถามที่พบบ่อย 8 ข้อ เรียกได้ว่าอ่านจบก็รู้รอบด้าน เป็นข้อมูลนำไปประกอบการตัดสินใจได้เลย
การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) คือเทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน วิธีการนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเก็บเอาหน่วยรากผม (Follicular Unit) จากบริเวณด้านหลัง รวมถึงด้านข้างของศีรษะที่มีผมหนาแน่น แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบางหรือศีรษะล้าน
ในกระบวนการปลูกผม FUE แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีขนาดเล็กมากในการเจาะและดึงรากผมออกมาทีละหน่วย โดยไม่ต้องตัดเนื้อเยื่อออกเป็นแผ่นใหญ่ วิธีนี้ทำให้เกิดแผลเป็นน้อยมาก อีกทั้งฟื้นตัวเร็วกว่าวิธีการปลูกผมแบบดั้งเดิม
FUE และ FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นชื่อของเทคนิคที่ใช้ในการปลูกผมเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้
ดังนั้น ข้อดีหลักของปลูกผมแบบ FUE คือการฟื้นตัวที่เร็วกว่า ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าใครเหมาะสมกับการปลูกผม FUE หรือไม่ ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมโดยตรง เนื่องจากแต่ละคนมีปัจจัยเฉพาะตัวที่ต้องพิจารณา
โดยทั่วไป การปลูกผม FUE ถือว่าเจ็บน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกผมด้วยวิธีอื่น ๆ เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างแผลใหญ่บนหนังศีรษะ อีกทั้งมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ระหว่างการรักษา อย่างไรก็ตาม หลังการรักษา อาจมีอาการปวดตึงบริเวณที่เก็บรากผมและที่ปลูกผมในช่วง 1-3 วันแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง นอกจากนี้ อาจมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณหน้าผากและรอบดวงตาในช่วงแรก แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่วัน
ผลลัพธ์ของปลูกผมแบบ FUE ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที เพราะกระบวนการนี้ใช้เวลาเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว กรอบเวลาจะเป็นดังนี้
อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สุขภาพโดยรวม และการดูแลรักษาหลังการปลูกผม
เวลาที่ใช้ในการปลูกผม FUE ขึ้นอยู่กับจำนวนรากผมที่ต้องการปลูก โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อครั้ง ส่วนในกรณีที่ต้องการปลูกผมจำนวนมาก อาจต้องแบ่งการรักษาออกเป็นหลายครั้ง
ปลูกผมแบบ FUE ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างถาวร เนื่องจากรากผมที่นำมาปลูกมาจากบริเวณที่ทนต่อฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดผมบาง โดยทั่วไป รากผมเหล่านี้จะยังคงเติบโตและแข็งแรงแม้ในบริเวณที่เคยบางหรือล้าน
สำหรับใครที่สนใจอยากแก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านด้วยวิธีปลูกผม FUE สามารถมาปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางของเราได้ที่ Bangkok Hair Clinic คลินิกปลูกผมและรักษาผมบางระดับพรีเมียม เรามีบริการปลูกผมถาวร FUE ด้วยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง วางแผนการรักษาอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน สามารถติดต่อได้ทาง Line: @bangkokhairclinic (มี @ ด้วย) หรือโทร. 02 118 7386, 064 196 3539 หรือส่งอีเมลมาที่ bangkokhairclinic@gmail.com
แหล่งอ้างอิงข้อมูล