fb pixel
Line facebook instagram linkedin

วันอังคาร - อาทิตย์ 10:00 - 19:00
ติดต่อ 064 196 3539

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปลูกผม FUE ในที่เดียว

สำหรับใครที่กำลังกังวลใจกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน และอยากทวงคืนความดกดำให้กลับคืนมา โดยสนใจแนวทางการปลูกผม FUE ทว่า ยังมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับวิธีการนี้ ต้องไม่พลาดกับบทความนี้ เพราะเราจะมาอธิบายถึงวิธีการปลูกผมแบบ FUE ว่าคืออะไรให้เข้าใจง่ายขึ้น ผ่านการตอบคำถามที่พบบ่อย 8 ข้อ เรียกได้ว่าอ่านจบก็รู้รอบด้าน เป็นข้อมูลนำไปประกอบการตัดสินใจได้เลย

1. ปลูกผม FUE คืออะไร ?

การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) คือเทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน วิธีการนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเก็บเอาหน่วยรากผม (Follicular Unit) จากบริเวณด้านหลัง รวมถึงด้านข้างของศีรษะที่มีผมหนาแน่น แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบางหรือศีรษะล้าน

ในกระบวนการปลูกผม FUE แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีขนาดเล็กมากในการเจาะและดึงรากผมออกมาทีละหน่วย โดยไม่ต้องตัดเนื้อเยื่อออกเป็นแผ่นใหญ่ วิธีนี้ทำให้เกิดแผลเป็นน้อยมาก อีกทั้งฟื้นตัวเร็วกว่าวิธีการปลูกผมแบบดั้งเดิม

2. การปลูกผม FUE ต่างจากวิธี FUT อย่างไร ?

FUE และ FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นชื่อของเทคนิคที่ใช้ในการปลูกผมเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้

  • FUT: เป็นวิธีการแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “Strip Method” ซึ่งแพทย์จะตัดแถบผิวหนังที่มีเส้นผมออกมาจากด้านหลังศีรษะ จากนั้นจึงแยกหน่วยรากผมออกมาและปลูกกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ วิธีนี้ทำให้เกิดแผลเป็นเป็นเส้นยาวที่ด้านหลังศีรษะ แต่สามารถเก็บรากผมได้จำนวนมากในครั้งเดียว
  • FUE: วิธีนี้จะทันสมัยกว่า โดยจะใช้การเจาะรากผมออกมาทีละหน่วยโดยตรง ทำให้ไม่เกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ แต่อาจใช้เวลานานกว่า รวมถึงเก็บรากผมได้น้อยกว่า FUT ในแต่ละครั้ง

ดังนั้น ข้อดีหลักของปลูกผมแบบ FUE คือการฟื้นตัวที่เร็วกว่า ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า

3. ใครบ้างที่เหมาะสมกับการทำ FUE ?

  • ผู้ที่มีผมบางบริเวณด้านหน้าศีรษะหรือกลางศีรษะ: เพราะ FUE ตอบโจทย์การเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมในบริเวณที่บางได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่มีหนังศีรษะบางและไม่เหมาะกับการปลูกผมแบบ FUT: เนื่องจากวิธีปลูกผม FUE ไม่ต้องตัดแผ่นหนังออก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะบาง
  • ผู้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปิดรอยแผลเป็น: FUE สามารถช่วยปลูกผมในบริเวณที่มีแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าใครเหมาะสมกับการปลูกผม FUE หรือไม่ ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมโดยตรง เนื่องจากแต่ละคนมีปัจจัยเฉพาะตัวที่ต้องพิจารณา

4. การปลูกผมแบบ FUE เจ็บหรือไม่ ?

โดยทั่วไป การปลูกผม FUE ถือว่าเจ็บน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกผมด้วยวิธีอื่น ๆ เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างแผลใหญ่บนหนังศีรษะ อีกทั้งมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ระหว่างการรักษา อย่างไรก็ตาม หลังการรักษา อาจมีอาการปวดตึงบริเวณที่เก็บรากผมและที่ปลูกผมในช่วง 1-3 วันแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง นอกจากนี้ อาจมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณหน้าผากและรอบดวงตาในช่วงแรก แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่วัน

5. ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล ?

ผลลัพธ์ของปลูกผมแบบ FUE ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที เพราะกระบวนการนี้ใช้เวลาเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว กรอบเวลาจะเป็นดังนี้

  • 2-3 สัปดาห์แรก: เส้นผมที่ปลูกใหม่อาจร่วงหลุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติและไม่ต้องกังวล
  • 3-4 เดือน: เริ่มเห็นการงอกของเส้นผมใหม่
  • 6-9 เดือน: เส้นผมเริ่มหนาขึ้นและยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • 12-18 เดือน: ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จะปรากฏ โดยเส้นผมจะมีความหนาแน่นและดูเป็นธรรมชาติ

อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สุขภาพโดยรวม และการดูแลรักษาหลังการปลูกผม

ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงภายหลังการปลูกผมแบบ FUE

6.กระบวนการปลูกผม FUE ใช้เวลานานเท่าไร ?

เวลาที่ใช้ในการปลูกผม FUE ขึ้นอยู่กับจำนวนรากผมที่ต้องการปลูก โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อครั้ง ส่วนในกรณีที่ต้องการปลูกผมจำนวนมาก อาจต้องแบ่งการรักษาออกเป็นหลายครั้ง

7.FUE ให้ผลลัพธ์ถาวรหรือไม่ ?

ปลูกผมแบบ FUE ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างถาวร เนื่องจากรากผมที่นำมาปลูกมาจากบริเวณที่ทนต่อฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดผมบาง โดยทั่วไป รากผมเหล่านี้จะยังคงเติบโตและแข็งแรงแม้ในบริเวณที่เคยบางหรือล้าน

8.การดูแลตัวเองหลังทำ FUE ควรทำอย่างไร ?

  • ห้ามแตะต้องหรือขยี้บริเวณที่ปลูกผมและเก็บรากผม
  • นอนหงายและยกศีรษะสูง 45 องศาในช่วง 3-4 วันแรก
  • สวมหมวกหลวม ๆ เมื่อออกแดด
  • ล้างศีรษะตามคำแนะนำของแพทย์
  • ใช้น้ำอุ่นและแชมพูอ่อน ๆ ที่แพทย์แนะนำ
  • ห้ามขัดถูแรง ๆ ให้ใช้วิธีแตะเบา ๆ แทน
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการปะทะเป็นเวลา 1 เดือน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมาก ๆ

จบปัญหาผมบางหนังศีรษะล้านด้วยการปลูกผม FUE ระดับพรีเมียมที่ Bangkok Hair Clinic

สำหรับใครที่สนใจอยากแก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านด้วยวิธีปลูกผม FUE สามารถมาปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางของเราได้ที่ Bangkok Hair Clinic คลินิกปลูกผมและรักษาผมบางระดับพรีเมียม เรามีบริการปลูกผมถาวร FUE ด้วยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง วางแผนการรักษาอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน สามารถติดต่อได้ทาง Line: @bangkokhairclinic (มี @ ด้วย) หรือโทร. 02 118 7386, 064 196 3539 หรือส่งอีเมลมาที่ bangkokhairclinic@gmail.com

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

lineline messagemessage callcall