บอกต่อ 3 เทคนิคดูแลปัญหาผม! และวิธีปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรา?
จบปัญหาหัวล้าน ผมบาง ศีรษะเถิก และอีกหลากหลายปัญหา ที่ทำให้เสียความมั่นใจ ด้วยการปลูกผม พร้อมเผยเทคนิคการเลือกปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรา!
จบปัญหาหัวล้าน ผมบาง ศีรษะเถิก และอีกหลากหลายปัญหา ที่ทำให้เสียความมั่นใจ ด้วยการปลูกผม พร้อมเผยเทคนิคการเลือกปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรา!
หากใครที่กำลังมองหาวิธีช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน หรือหัวเถิก เพื่อทำให้เส้นผมกลับมาขึ้นใหม่อีกครั้ง ‘การปลูกผม’อาจเป็นคำตอบที่เหมาะกับคุณมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การปลูกผมในแต่ละวิธีย่อมมีความแตกต่างกันออกไป แต่หากใครที่สงสัยว่า แล้ววิธีปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด? บทความนี้มีคำตอบ!
เทคนิคการปลูกผมแบบ FUE (FUE Hair Transplant) เป็นการปลูกผมโดยใช้วิธีการย้ายเซลล์รากผมช่วงท้ายทอย แล้วนำไปปลูกใหม่ในจุดที่มีปัญหาหรือบริเวณที่อยากจะรักษาผมบาง โดยจะเป็นการใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “หัวเจาะอัตโนมัติ” ที่จะช่วยมอบผลลัพธ์ที่ดีได้มากถึง 90-95% ทำให้ผมที่ขึ้นใหม่ดูสมจริงอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับวิธีนี้จะใช้เวลาในการปลูกผมไม่นานมาก อีกทั้งยังมีความแม่นยำ โดยสามารถปลูกได้สูงสุด 2,000 – 2,500 กราฟ (เส้นผม 5,000 เส้น) ซึ่งถ้าใครอยากปลูกผมถาวรที่จะช่วยให้รากผมมีความแข็งแรง เทคนิค FUE อาจเป็นการปลูกผมที่เหมาะกับคุณ
เราลองมาเจาะลึกถึงข้อดีของการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้กันดีกว่า เผื่อคุณจะได้คำตอบว่าวิธีปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด!
เติมความหนาแน่นให้เส้นผมได้แบบไร้รอยเย็บ ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ต้องการโกนศีรษะ หรือตัดผมสั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแนะนำสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าวิธีปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรา
สำหรับในการรักษา หลังจากที่คุณหมอผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบถึงปัญหาผมร่วงผมบางและรู้ถึงความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาแล้ว ก็จะมีการนำเสนอวิธีการรักษาที่เหมาะกับคุณ ซึ่งหนึ่งในเทคนิคการปลูกผมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้วิธีไหน ๆ ก็คือการปลูกผมแบบ Long Hair FUE ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ จะทำให้เส้นผมที่ขึ้นใหม่มีความหนาแน่น โดยจะเป็นการใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็กพิเศษ พร้อมทำการเจาะและดึงรากผมออกมาปลูก ทั้งยังสามารถสร้างแนวผมได้ทันที แม้คุณจะมีผมที่ยาวอยู่แล้วก็ตาม
มาถึงเทคนิคสุดท้ายที่ใช้ในการปลูกผมอย่าง DHI (Direct Hair Implantation) ซึ่งในการปลูกผมจะใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ชื่อว่า “DHI Implanter” เข้ามาช่วย โดยแนวทางการทำงานของเครื่องมือตัวนี้ จะทำหน้าที่ปักและปลูกผมได้ภายในครั้งเดียว
ด้วยความพิเศษของหัวเจาะที่เล็กกว่าทุกเทคนิค โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6 – 0.8 มล. เท่านั้น จึงทำให้สามารถปลูกผมได้ถี่แน่น อีกทั้งยังมีความละเอียดสูง ทำให้แพทย์ผู้ดูแลสามารถควบคุมระดับความลึกขององศาและทิศทางของรากผมได้อย่างเป็นธรรมชาติ แถมไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย
ถึงตรงนี้ หากใครที่ยังไม่รู้ว่าวิธีปลูกผมแบบไหนเหมาะกับเรา และอยากปรึกษาถึงวิธีการปลูกผมที่เหมาะสมกับคุณ สามารถมาปรึกษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญของเราได้ที่ Bangkok Hair Clinic คลินิกปลูกผมและรักษาผมบางระดับพรีเมียม ที่พร้อมให้บริการและวางแผนการรักษาอย่างมืออาชีพ
มีปัญหาเส้นผม ปรึกษาแพทย์ฟรีที่ Bangkok Hair Clinic
E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ