เคราตินคืออะไร?
เคราคิน (Keratin) คือ เส้นใยโปรตีนธรรมชาติที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ เคราตินจะอยู่บริเวณหนังกำพร้าของเรามีหน้าที่ปกป้องแสงแดดและยังป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิวหนังด้วย กว่าร้อยละ 90 จึงทำให้เคราตินเป็นส่วนสำคัญในการบำรุงของเส้นผมเลยก็ว่าได้ เคราตินไม่ใช่แค่ป้องกันแสงแดดและการระเหยของน้ำให้กับเส้นผมแต่ยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดีให้แก่เส้นผมรวมไปถึงสร้างความแข็งแรงยืดหยุ่นให้กับเส้นผมได้อีกด้วยอีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารให้กับเซลล์ต่างๆ ในเส้นผมทำให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่าง ๆ จึงชอบใช้เคราตินเป็นส่วนผสมก็เพราะด้วยคุณสมบัติที่ปกป้องและบำรุงแส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การยืดผมและทรีตเมนต์ด้วยเคราตินช่วยให้ผมเงางามได้จริงหรือ?
การทำทรีตเมนต์หรือยืดผมด้วยเคราตินนั้น วิธีการทำจะเหมือนกันแล้วแต่ที่จะเรียกว่าอย่างไรโดยการทำนั้นจะเป็นการเติมเคราตินเข้าสู่เส้นผม อย่างที่บอกว่าเคราตินนั้นในเส้นผมของเรามีอยู่แล้วแต่ก็จะลดลงตามอายุของคนเขาไปเรื่อย ๆ การบำรุงด้วยเคราตินเหมือนเติมอาหารให้เส้นผมจากการที่เส้นผมของเราถูกทำร้ายจากการใช้ชีวิตประจำวันจากมลภาวะหรือสารเคมีในแต่ละวันให้ผมของเรากลับมาสวยเงางามและแข็งแรงเหมือนเดิม การทำเคราตินนั้นดีกว่าการยืดผมภาวรเพราะเคราตินจะช่วยบำรุงเส้นผมได้มากกว่าการใช้สารเคมียืดผมนั่นเองครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าการทำเคราตินนั้นไม่ได้ทำให้ผมของเราตรงสวยอย่างถาวร อาจจะต้องทำซ้ำอยู่ตลอดเพื่อให้เส้นผมของเราตรงสวยเงางามครับ
วิธีบำรุงเส้นผมให้ผมเงางาม
1. กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม
สารอาหารที่เราควรกินเพื่อบำรุงเส้นผมแบบธรรมชาติก็คือ โปรตีน เช่น นม ชีส โยเกิร์ต , ปลาแซลมอนมีโอเมก้า3, วิตามินบี12 และธาตุเหล็ก , กล้วยหอมจะอุดมไปด้วยวิตามินบี6 และแร่ซิลาก้า , ผักที่มีใบสีเขียวจะประกอบด้วยวิตามินเอและวิตามินซี, นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซิลีเนียม และแคลเซียม เป็นต้น สารอาหารทั้งหมดนี้จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางามแบบธรรมชาติซ้อมแซมเส้นผมที่ถูกทำร้ายและยังช่วยให้ผมขาด หลุด ร่วงน้อยลงอีกด้วย
2. หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผม
การทำร้ายเส้นผมอย่างนึงคือความร้อน ทั้งการหนีบ การยืด การดัดผม รวมปถึงการใช้สารเคมีด้วย ไม่ว่าจะเป็นทำสีผม การเซ็ตผม สเปย์ต่าง ๆ ล้วนทำร้ายเส้นผมทั้งนั้น แนะนำก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าว หรือถ้าจำเป็นอาจจะใช้เซรั่มหรือสเปรย์กันความร้อนก่อนทำจะช่วยป้องกันผมของคุณไม่สัมผัสกับความร้อนโดยตรงได้
3. การใช้หัตถการ
· การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น Platelet Rich Plasma หรือที่เราเรียกกันว่าการฉีด PRP คือการนำเกล็ดเลือดเข้มข้นฉีกเข้าไปบนหนังศีรษะ ไม่เจ็บและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนและผลข้างเคียงน้อย โดยวิธีการก็คือเจาะเลือดของผู้ที่จะทำเข้าไปทำกระบวนการเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่เข้มขนจะได้สารอาการที่เส้นผมต้องการและ Growth Factor ที่จำเป็นต่อการสร้างผม และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด เพื่อให้สารอาหารไปเลี้ยงเส้นผมได้ดีขึ้นนั่นเอง แต่ต้องทำการฉีดโดยแพทย์เท่านั้น
· การทำนวัตกรรมเซลล์บำบัดฟื้นฟูเส้นผม Cell Plus Therapy วิธีการคล้ายๆกับการทำ PRP แต่จะแตกต่างตรงที่การทำเซลล์บำบัดจะใช่เซลล์จากบนศีรษะเราที่แข็งแรงเข้าไปสกัดในเครื่องแล้วฉีดกลับเข้าไปนั่นเอง สามารถเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนได้แม้ทำเพียงครั้งเดียว
· การฉายเลเซอร์บำรุงผม (LLLT) หลายท่านคงคุ้นเคยกับการใช้เลเซอร์เพื่อบำรุงรักษาผิวพรรณ แต่รู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบันมีเลเซอร์ที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยดูแลบำรุงรักษาเส้นผมและหนังศีรษะได้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ Low-Level Laser Therapy (LLLT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยในการรักษาผมร่วงผมบางจากพันธุกรรม LLLT นี้จะทำการกระตุ้นและฟื้นฟูการทำงานของเซลล์รากผมให้กลับมาแข็งแรงเสมือนเป็นเซลล์ใหม่ และยังช่วยบำรุงสภาพของหนังศีรษะได้อย่างทั่วถึง ล้ำลึกถึงระดับรูขุมขน เพราะอานุภาพการทำงานของเลเซอร์ให้ผลที่แน่นอนกว่าการใช้เซรั่มบำรุงโดยทั่วไป
การบำรุงผมด้วยเคราตินนั้นถือว่าคอนข้างได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการยืดผมด้วยเคราตินทำทรีตเมนต์หรือแม้กระทั่งการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมเคราตินเองก็ตาม ซึ่งการบำรุงด้วยเคราตินนั้นทำให้ผมเงางามและดูหนาขึ้นจริงแต่ก่อนจะใช้ควรศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราจะเลือกใช้ว่าปลอดภัยและของแท้จริง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนหลอกที่สำคัญการทำเคราตินนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียถ้าเราไม่ไม่ศึกษาข้อมูลดี ๆ อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ข้อมูลอ้างอิง
https://shorturl.asia/s6GKM
https://shorturl.asia/7oUJT
https://shorturl.asia/PJ95e