ผิวแทนย้อมผมสีอะไรดี!

สำหรับคนที่มีผิวแทน การเลือกสีผมที่เข้ากับสีผิวสามารถช่วยเสริมลุคให้โดดเด่นยิ่งขึ้นได้ นี่คือสีผมที่เหมาะกับผิวแทน:

1. สีน้ำตาลทอง (Golden Brown): สีนี้จะช่วยเสริมความอบอุ่นของผิวแทนได้เป็นอย่างดี ทำให้ใบหน้าดูสว่างและสดใสขึ้น
2. สีคาราเมล (Caramel): เป็นอีกสีหนึ่งที่เพิ่มความมีมิติให้กับเส้นผมและทำให้ลุคโดยรวมดูหวานขึ้น สีคาราเมลเข้ากับผิวแทนได้อย่างเป็นธรรมชาติและลงตัว
3. สีบลอนด์น้ำผึ้ง (Honey Blonde): สีบลอนด์น้ำผึ้งจะช่วยทำให้ผิวดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนลุคให้ดูสว่างขึ้น
4. สีน้ำตาลช็อกโกแลต (Chocolate Brown): เป็นสีที่คลาสสิกและดูดีตลอดเวลา สีนี้ให้ความอบอุ่นและเพิ่มความเข้มให้กับลุคโดยไม่ทำให้ดูหมอง
5. สีแดงมะฮอกกานี (Mahogany Red): สีแดงที่มีโทนลึกจะช่วยทำให้ผิวแทนดูโดดเด่นและเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับลุคได้
6. สีบลอนด์อ่อน (Ash Blonde): สำหรับคนที่ต้องการสีผมอ่อน สีบลอนด์โทนอ่อน ๆ จะช่วยเสริมความสดใสให้กับผิวแทนได้อย่างน่าสนใจ แต่ควรปรึกษาช่างทำผมเพื่อให้ได้สีที่เข้ากับสีผิวมากที่สุด

เมื่อเลือกสีผมได้แล้ว ควรพิจารณาสีผมธรรมชาติของคุณ หากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสีผมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและที่สำคัญควรคำนึงถึงผลเสียจากการย้อมผมด้วยและก่อนที่จะย้อมผมหรือทำเคมีกับเส้นผมควรทดสอบอาการแพ้โดยมีวิธีการทดสอบดังนี้

• ผสมน้ำยาย้อมผมในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับทดสอบ หลังจากนั้นให้นำน้ำยาที่ผสมไว้ทาลงที่บริเวณใต้ท้องแขนแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งแล้วสังเกตุอาการ ภายใน30นาทีถ้าไม่มีอาการใดๆ ให้ปล่อยทิ้งไว้ 24-48 ชม. ถ้ามีอาการผิดปกติให้รีบล้างออกแล้วพบแพทย์

การเลือกสีผมสำหรับคนผิวแทนสามารถช่วยเสริมความงามและเพิ่มความมั่นใจได้อย่างมาก สีผมที่เหมาะสมจะช่วยทำให้ใบหน้าดูสว่างและโดดเด่น โดยมีสีผมหลายแบบที่เหมาะกับคนผิวแทน เช่น สีน้ำตาลทอง สีคาราเมล และสีมะฮอกกานี สีเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความเปล่งประกายให้กับใบหน้า แต่ยังช่วยเสริมลุคให้ดูเป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์ขึ้นอีกด้วย

ที่ Bangkok Hair Clinic มีบริการปลูกผมถาวรทั้งเทคนิค FUE ,DHI Micrograft ในราคาเริ่มต้น 79,000 บาท โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมปลูกผมที่จบจากประเทศอังกฤษและทีมหัตถการที่มีประสบการณ์โดยตรงทั้งนี้เราใช้เทคนิคการปลูกผมเฉพาะจึงทำให้มีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับที่อื่นยิ่งไปกว่านั้นเราวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลโดยคำนึงถึงความต้องการและลำดับความสำคัญของผู้รับบริการ