การดัดผมมีกี่ประเภท
1. ดัดผมแบบเย็น (Cold Perm): การดัดผมแบบเย็นไม่ใช้ความร้อนในการดัดผมจะใช้ความเย็นของน้ำยาดัดผมแล้วให้ที่แกนดัดดัดไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 17 – 45 องศาเซลเซียล แต่นอนว่าการดัดแบบเย็นนี้ใช้เวลานานกว่าแบบดิจิตอล ซึ่งสามารถลดการเสียหายจากความร้อนได้
2. ดัดผมแบบดิจิตอล (Digital Perm): การดัดผมแบบดิจิตอลจะใช้ความร้อนแบบคงที่ทำหน้าที่ร่วมกับแกนดัดไฟฟ้าและเครื่องดัดผมที่มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างดี ลดความเสี่ยงจากความร้อนที่สูงเกินไป
การดัดผมสามารถทำให้ผมเสียหรือไม่?
การดัดผมสามารถทำให้ผมเสียแน่นอนและหากไม่ระมัดระวังและไม่ดูแลอย่างเหมาะสมผมจะยิ่งเสียมากขึ้น โดยเฉพาะหากใช้สารเคมีที่มีความรุนแรงหรือใช้ความร้อนสูงมากเกินไป อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่สามารถช่วยลดความเสียหายจากการดัดผมได้:
1. เลือกช่างผมที่มีประสบการณ์: การดัดผมควรทำโดยช่างผมที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อให้สามารถประเมินสภาพผมและเลือกวิธีการดัดที่เหมาะสมได้
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ: การใช้สารผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือที่มีคุณภาพดีจะช่วยลดความเสียหายต่อผมได้
3. การดูแลผมหลังการดัด: หลังการดัดผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เหมาะสม เช่น ครีมบำรุงผม มาส์กผม หรือเซรั่ม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและซ่อมแซมผมที่เสียหายจากการดัดผม
4. หลีกเลี่ยงการดัดผมบ่อยเกินไป: การดัดผมบ่อยเกินไปอาจทำให้ผมเสียหายได้ ควรเว้นระยะเวลาระหว่างการดัดผมแต่ละครั้งไม่ควรทำถี่จนเกินไป
5. หลีกเลี่ยงความร้อนและสารเคมีอื่น ๆ: หลังการดัดผม ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสูงจากไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผม และหลีกเลี่ยงการทำสีผมหรือใช้สารเคมีอื่น ๆ ทันทีหลังการดัดผม
แน่นอนกว่าการดัดผมนั้นไม่ว่าจะดัดผมประเภทไหนผมก็เสียอยู่ดี ฉะนั้นแล้วการดัดผมที่ดีควรคำนึงถึงการบำรุงรักษาผมหลังจากการดัดผมด้วย เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมโดยเฉพาะและการหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนโดยตรงกับผมเพื่อป้องกันผมเสียหายไปมากกว่าเดิม
ที่ Bangkok Hair Clinic มีบริการปลูกผมถาวรทั้งเทคนิค FUE ,DHI Micrograft ในราคาเริ่มต้น 79,000 บาท โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมปลูกผมที่จบจากประเทศอังกฤษและทีมหัตถการที่มีประสบการณ์โดยตรงทั้งนี้เราใช้เทคนิคการปลูกผมเฉพาะจึงทำให้มีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับที่อื่นยิ่งไปกว่านั้นเราวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลโดยคำนึงถึงความต้องการและลำดับความสำคัญของผู้รับบริการ